บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุม

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้ชี้ชัดว่า ตั้งแต่ปี 1967 สตรีอาเซียนได้มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อการขยายตัวและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศสมาชิก  จำนวนผู้บริหารสถานประกอบการที่เป็นสตรีเพิ่มมากขึ้นและมีสตรีที่เป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆในภูมิภาค พร้อมทั้งกล่าวถึงปัญหาที่ยังคั่งค้างเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆระหว่างสตรีและผู้ชายและเสนอเนื้อหาความร่วมมือ 3 ประการว่า“หนึ่งคือการฝึกอบรมเพื่อยกระดับทักษะด้านใหม่ๆให้แก่สตรี จัดตั้งเครือข่ายการศึกษาตลอดชีวิตในอาเซียนกับการเปลี่ยนแปลงงานทำท่ามกลางการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 สองคือต้องค้ำประกันงานทำที่ยั่งยืนให้แก่ทุกคน ยกเลิกการกีดกันต่อสตรีในการเข้าถึงแหล่งพลังต่างๆ โดยเฉพาะงานทำ  สามคือส่งเสริมนโยบายสวัสดิการสังคมสำหรับสตรีและเด็กหญิง โดยเฉพาะผ่านการปรับปรุงกลไก กฎหมาย นโยบายการประกันสังคมสำหรับประชาชนทุกคน รวมทั้งแรงงานต่างดาว โอกาสนี้ ผมขอชื่นชมรัฐมนตรีสตรีอาเซียนและเจ้าหน้าที่คณะกรรมการสตรีอาเซียนที่ได้พยายามผลักดันความเสมอภาคทางเพศและมอบอำนาจให้แก่สตรีในเวลาที่ผ่านมา”

ในวันเดียวกัน นาง เหงวียนถิกิมเงิน ปรานสภาแห่งชาติได้ให้การต้อนรับหัวหน้าคณะผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมสตรีอาเซียนครั้งที่ 3.