นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ( Photo: chinhphu.vn) |
ผลของการเยือนครั้งนี้เปิดระยะใหม่ในความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์ มีส่วนร่วมผลักดันการพึ่งพาตนเองและความคิดสร้างสรรค์ของอาเซียน นาย เลก๊วกหยุง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ประเมินว่า “นอกจากความร่วมมือในด้านเดิม เช่น อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูปและการแปรรูป ทั้งสองฝ่ายมีความตั้งใจที่จะขยายความร่วมมือในด้านใหม่ เช่น พลังงานใหม่ พลังงานหมุนเวียนและด้านที่ต้องใช้เทคโนโลยีสูงเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม”
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้สงวนเวลาส่วนใหญ่เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางการค้าและการลงทุน เป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสถานประกอบการและท้องถิ่นต่างๆของทั้งสองประเทศ นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ย้ำว่า “เวียดนามกำลังพยายามสร้างสรรค์เศรษฐกิจ start up ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นฝ่ายรุกของเศรษฐกิจ นโยบายพัฒนาทางอินเตอร์เน็ตและการยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและการประกอบธุรกิจ ซึ่งสร้างโอกาสใหญ่ให้แก่บรรดานักลงทุนที่ประกอบธุรกิจในเวียดนาม เวียดนามส่งเสริมให้กองทุนต่างๆให้ความช่วยเหลือสถานประกอบการทำธุรกิจ start up ที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีศักยภาพ รัฐบาลเวียดนามให้คำมั่นที่จะช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่ความคิดริเริ่มในการทำธุรกิจ start up คุ้มครองลิขสิทธิ์ทางปัญญาในกรอบของกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ทางปัญญาที่สภาแห่งชาติเวียดนามได้อนุมัติ ปฏิบัติคำมั่นเกี่ยวกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ทางปัญญาในกรอบของข้อตกลงเอฟทีเอที่เวียดนามได้ลงนาม”
หลังการเยือนสิงคโปร์ ในการกล่าวปราศรัยในการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่32ภายใต้หัวข้อ “การสร้างสรรค์อาเซียนที่พึ่งพาตนเองและมีความคิดสร้างสรรค์” นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้ยืนยันว่า ความสามารถในการพึ่งตนเองของอาเซียนต้องได้รับการส่งเสริมในทั้ง3เสาหลัก
นอกรอบการประชุมผู้นำอาเซียน นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้มีการพบปะกับประธานาธิบดีอินโดนีเซียและประธานาธิบดีเมียนมาร์ ในการพบปะกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ผู้นำทั้งสองท่านได้ย้ำว่า ต้องผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น1หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้การสนับสนุนกันเกี่ยวกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างภูมิภาค ความมั่นคงรูปแบบใหม่ ความร่วมมือและความมั่นคงในทะเลตะวันออกและเขตทะเลต่างๆ ต่อต้านอาชญากรรมและการจับปลาอย่างผิดกฎหมาย
ส่วนในการพบปะกับผู้นำเมียนมาร์ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ยืนยันว่า เวียดนามให้การสนับสนุนรัฐบาลเมียนมาร์ในกระบวนการปรองดองชาติ ยกระดับสถานะของประเทศในภูมิภาคและโลก พร้อมทั้ง เสนอให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติผลการเยือนเวียดนามของนาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมาร์ เช่น การกระชับความสัมพันธ์ทางการเมือง การจัดการประชุมครั้งที่ 9 ของคณะกรรมการผสมเวียดนาม-เมียนมาร์โดยเร็วและอนุมัติโครงการปฏิบัติงานเกี่ยวกับความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศในช่วงปี2018-2023.