นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสรุป ๑๐ ปีการปฏิบัติโครงการ “ความมั่นคงด้านอาหารแห่งชาติ” (vietnamplus) |
นายกรัฐมนตรีย้ำว่า การรักษาความมั่นคงด้านอาหารคือหน้าที่เฉพาะหน้าและยุทธศาสตร์ที่ยาวนาน มีส่วนร่วมปฏิบัติเป้าหมายที่รัฐบาลได้วางไว้ในปีนี้คือป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดให้ประสบความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะหน้าที่นี้จะลำบากมากขึ้นในสภาวการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
นายกรัฐมนตรีประเมินว่า ภายหลัง ๑๐ ปีของการปฏิบัติโครงการ การเกษตรเวียดนาม รวมทั้งการผลิตอาหารได้บรรลุผลงานอย่างรอบด้าน ขณะนี้ เวียดนามเป็น ๑ ใน ๓ ประเทศส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก บรรลุตั้งแต่ ๖.๕ ถึง ๗ ล้านตันต่อปี เมื่อเร็วๆนี้ เวียดนามได้ประยุกต์ใช้วิทยาศาตร์เทคโนโลยีในการผลิตเกษตรและได้มีเครื่องหมายการค้าข้าวอร่อยที่สุดในโลก ควบคู่กันนั้น ชีวิตของเกษตรกรนับวันได้รับการยกระดับให้ดีขึ้น สำหรับหน้าที่ในเวลาที่จะถึง นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ย้ำว่า “การมีส่วนร่วมต่อความมั่นคงของโลกคือสิ่งที่จำเป็น แต่ก่อนอื่นต้องให้ความสนใจประชาชนเวียดนามเกือบ 100 ล้านคน การสำรองอาหารให้มีเสถียรภาพในทุกสถานการณ์มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะนี่คือสินค้าสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ ความมั่นคงด้านอาหารคือปัญหาสำคัญต่อทุกประเทศ โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่การเมืองไร้เสถียรภาพ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความมั่นคงแบบเก่า ดังนั้น การรักษาความปลอดภัยและเสถียรภาพให้แก่ประชาชนคือความรับผิดชอบของพรรคและรัฐ” .