นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก กับบรรดาผู้นำอาเซียน+3 (VGP) |
ก่อนหน้านั้น ในกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 และการประชุมระดับสูงต่างๆที่เกี่ยวข้อง เมื่อเช้าวันที่ 4 พฤศจิกายน ณ ประเทศไทย นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน+3 ประกอบด้วยจีน ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก แสดงความเห็นว่า ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีการผันผวนอย่างซับซ้อน ประเทศอาเซียน+3 เผชิญกับความท้าทายมากมาย ดังนั้นต้องร่วมมือ ผลักดันความร่วามือพหุภาคี การค้าเสรี การเชื่อมโยง ยกระดับความสามารถในการพึ่งพาตนเองต่อผลกระทบจากภายนอก อีกทั้งเสนอให้ผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การคลัง ผลักดันความมีประสิทธิภาพและความพร้อมของความตกลงมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี หรือ CMIM ต่อกรณีที่เกิดวิกฤตและป้องกันวิกฤต ยกระดับความสามารถให้แก่สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคหรือ AMRO เพื่อมีข้อเสนอเกี่ยวกับนโยบายที่จำเป็น
นายกรัฐมนตรีประเมินว่า การเชื่อมโยงมีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการขยายตัวอย่างยั่งยืน ดังนั้น ต้องเน้นแหล่งพลัง โดยเฉพาะการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมโยงดิจิทัล การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล การค้าอิเล็กทรอนิกส์และการก่อสร้างเมืองอัจฉริยะ
ในการปิดการประชุม บรรดาประเทศอนุมัติแถลงการณ์ของบรรดาผู้นำอาเซียน+3 เกี่ยวกับข้อคิดริเริ่มเพื่อการเชื่อมโยง การจัดทำเว็บไซต์อาเซียน+3 เพื่อเพิ่มความรู้และผลักดันมิตรภาพประชาชนประเทศต่างๆในภูมิภาค.