เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรสและนายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง   (Photo: TTXVN)

ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้แสดงความประสงค์ว่า จะได้รับความช่วยเหลือจากสหประชาชาติต่อไป โดยเฉพาะในด้านการให้คำปรึกษา การช่วยเหลือด้านนโยบาย เทคนิค ประสบการณ์เพื่อมุ่งสู่การปฏิบัติสามก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์อย่างเข้มแข็งและรอบด้านคือการปรับปรุงกลไกให้มีความสมบูรณ์ การพัฒนาแหล่งบุคลากร โดยเฉพาะแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างพร้อมเพรียง ทันสมัยเพื่อปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมและมีรายได้ในระดับสูงในปี 2045 ในสภาวการณ์ที่โลกกำลังต้องเผชิญกับปัญหาและความท้าทายต่างๆ นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง ย้ำถึงการสนับสนุนบทบาทการเป็นศูนย์กลางของสหประชาชาติ ความคิดริเริ่มและความพยายามของเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติในการแสวงหามาตรการรักษาสันติภาพ ยุติการปะทะ ความไร้เสถียรภาพ ความมั่นคงระหว่างประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและการค้ำประกันสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งยืนยันว่า จากแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ พึ่งตนเอง ความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่าย เวียดนามพร้อมมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆของสหประชาชาติอย่างเต็มที่ ส่วนนาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ได้เห็นพ้องที่จะช่วยเหลือการปฏิบัติประเด็นการพัฒนาของเวียดนาม การปรึกษาด้านนโยบายการฟื้นฟูหลังวิกฤตโควิด -19 ตามแนวทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยั่งยืนและพึ่งตนเอง ให้คำมั่นที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหประชาชาติในทุกด้านและมีประสิทธิภาพ

ผู้นำทั้งสองท่านได้แสดงความวิตกกังวลต่อผลกระทบในทางลบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การปะทะที่ก่อให้เกิดวิกฤตความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานที่รุนแรงที่สุดในโลก ซึ่งสร้างความท้าทายต่อการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเวลาที่จะถึง.