นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งและประธานาธิบดีอินโดนีเซียเป็นประธานร่วมในการการสนทนาระดับสูงสถานประกอบการเวียดนาม-อินโดนีเซีย

ในการนี้ นาย โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้เผยว่า อินโดนีเซียและเวียดนามมีวิสัยทัศน์ร่วมคือพยายามเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2045 จึงต้องกระชับความร่วมมือที่มีคุณภาพสูง พร้อมทั้งเผยว่า อินโดนีเซียมีศักยภาพการพัฒนาตลาดคาร์บอนและกำลังส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า โดยแสดงความยินดีต่อสถานประกอบการเวียดนามที่เข้ามาลงทุนในเมืองหลวงใหม่ของอินโดนีเซีย นูซันตารา (Nusantara) มากขึ้น เช่น บริษัท Vinfast จะขยายการลงทุนด้านรถยนต์ไฟฟ้า สายการบิน Vietjet Air เปิดเส้นทางบินใหม่ที่เชื่อมโยงกับสถานที่ท่องเที่ยวของอินโดนีเซีย บริษัท  Sovico จะลงทุนด้านการท่องเที่ยวและบริษัท FPT จะลงทุนในด้านเทคโนโลยี ตลอดจนมีการลงทุนด้านธนาคาร การเงินและการศึกษามากขึ้น

ส่วนนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เผยว่า การเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีอินโดนีเซียจะสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่สถานประกอบการในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุน พร้อมทั้งเผยว่า เวียดนามส่งเสริมให้สถานประกอบการลงทุนในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจฐานความรู้ เศรษฐกิจแบ่งปันและด้านที่อินโดนีเซียมีจุดแข็งและเวียดนามมีความต้องการ เช่น อุตสาหกรรมอาหารฮาลาลและการเกษตร และแสดงความประสงค์ว่า อินโดนีเซียจะช่วยเวียดนามเข้าร่วมระบบห่วงโซ่อุปทานในอินโดนีเซียและโลกและเสนอให้สถานประกอบการเวียดนามส่งเสริมการลงทุนในกรุงนุสันตารามากขึ้น.