นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เสนอให้อาเซียนพัฒนาด้วยความคิดใหม่ วิสัยทัศน์ใหม่ พลังขับเคลื่อนใหม่และสถานะใหม่

Chia sẻ
(VOVWORLD) - เช้าวันที่ 9 ตุลาคม ณ กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ในกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้มีบทปราศรัยที่สำคัญในการประชุมครบองค์ฯ
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เสนอให้อาเซียนพัฒนาด้วยความคิดใหม่ วิสัยทัศน์ใหม่ พลังขับเคลื่อนใหม่และสถานะใหม่ - ảnh 1นายกรัฐมนตรีกล่าวปราศรัยในการประชุม (VNA)

ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เห็นพ้องกับหัวข้อของอาเซียนปี 2024 คือ “การยกระดับความเชื่อมโยงและความยืดหยุ่นของอาเซียน” โดยเสนอให้อาเซียนควรใช้ความยืดหยุ่นเป็นพื้นฐานและถือการเชื่อมโยงเป็นเรื่องที่สำคัญในการก้าวรุดหน้าไป พร้อมทั้งใช้การพัฒนานวัตกรรมเป็นพลังขับเคลื่อน อาเซียนควรพัฒนาด้วยความคิดใหม่ วิสัยทัศน์ใหม่ พลังขับเคลื่อนใหม่และสถานะใหม่

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การที่ติมอร์เลสเตเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างสมบูรณ์โดยเร็วจะสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การยืดหยุ่นของอาเซียนและภูมิภาค พร้อมทั้งย้ำว่า อาเซียนควรธำรงบทบาทการเป็นศูนย์กลาง อิสระ สมดุลและมีการปฏิบัติตามหลักการในการปฏิบัติความสัมพันธ์การต่างประเทศ ขยายและสร้างความสัมพันธ์ที่หลากหลายกับหุ้นส่วนต่างๆ บนพื้นฐานคือค้ำประกันประสิทธิภาพ จริงจังและมีผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อภูมิภาค นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง แจ้งว่า เวียดนามจะจัดฟอรั่มอนาคตอาเซียนปี 2025 และหวังว่า ทุกประเทศจะให้ความสนใจและสนับสนุนเวียดนามให้ประสบความสำเร็จในการจัดฟอรั่มนี้ต่อไป

ส่วนในการเข้าร่วมการประชุมจำกัดวงในวันเดียวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาระหว่างภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ  นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้แสดงความคิดเห็นและประเมินเกี่ยวกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน โดยย้ำว่า การปะทะและสงครามในขอบเขตภูมิภาคจะเกิดขึ้นต่อไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกประเทศ สร้างความแตกแยกในห่วงโซ่อุปทาน ห่วงโซ่การผลิต ทำให้ต้นทุนด้านเชื้อเพลิงและการขนส่งสูงขึ้น ดังนั้น อาเซียนควรมีความสามัคคีและมีเสียงพูดเดียวกันเพื่อเรียกร้องให้ยุติสงครามและการปะทะ แสวงหามาตรการแก้ไขอย่างสันติบนพื้นฐานของการให้ความเคารพกฎหมายสากล

สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า การพิพาทอธิปไตยเหนือทะเลและเกาะแก่งในทะเลตะวันออกต้องได้รับการแก้ไขด้วยสันติวิธีตามกฎหมายสากล เสนอให้ทุกฝ่ายให้ความเคารพผลประโยชน์และอำนาจอธิปไตยของประเทศที่เกี่ยวข้อง สำหรับปัญหาเมียนมาร์ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า มาตรการแก้ไขให้แก่เมียนมาร์ต้องได้รับการตัดสินใจโดยประชาชนเมียนมาร์ และแสดงความหวังว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรสนทนาและเจรจาเพื่อยุติการปะทะ อาเซียนต้องส่งเสริมบทบาทการเป็นสะพานเชื่อมเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสนทนาและเจรจากัน.

Feedback