 ภาพการประชุม |
ในการกล่าวปราศรัยเปิดการประชุม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า การท่องเที่ยวคือหนึ่งในเศรษฐกิจหลัก มีส่วนร่วมที่สำคัญต่อการสร้างงานทำและแก้ปัญหาความยากจน ช่วยดึงดูดเงินลงทุน ผลักดันการขยายตัวและการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ การอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประชาชาติ ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งทางวัตถุและจิตใจให้ดีขึ้น การท่องเที่ยวเป็นสะพานเชื่อมระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาเที่ยว ศึกษาค้นคว้า มีความเข้าใจ รักประเทศ วัฒนธรรมและคนเวียดนามมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยังเผยว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเวียดนามต้องเปลี่ยนแปลงความคิดและวิธีการปฏิบัติที่สร้างสรรค์ เป็นก้าวกระโดด พร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลายเป็นเศรษฐกิจหลัก เสร็จสิ้นเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างน้อย 35 ล้านคนและนักท่องเที่ยวภายในประเทศ 120 ล้านคน ภายในปี 2025 และดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 50 ล้านคนและนักท่องเที่ยวภายในประเทศ160 ล้านคน ภายในปี 2030
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้กำชับว่า ในเวลาที่จะถึง ต้องพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างรวดเร็วและยั่งยืนเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาของหน่วยงานต่างๆ เพื่อมีส่วนร่วมพัฒนาระบบเศรษฐกิจตามแนวทางที่ทันสมัยและกำหนดเครื่องหมายการท่องเที่ยวแห่งชาติคือ “เวียดนาม – จุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย เป็นมิตร น่าสนใจ เป็นกันเองและสะดวก” เพื่อสร้างห่วงโซ่คุณค่าการท่องเที่ยวภายในและระหว่างประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเวียดนามต้องเปลี่ยนความคิดและวิธีการทำด้วยมาตรการเชิงสร้างสรรค์ ก้าวกระโดด พร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพ
“ต้องยกระดับความรู้และวิสัยทัศน์ที่สำคัญเกี่ยวกับคุณค่าของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อช่วยให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเป็นฝ่ายรุกในการประสานงานพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องพัฒนาระบบนิเวศการท่องเที่ยวอย่างรอบด้าน รวดเร็ว ยั่งยืน มีประสิทธิภาพมากที่สุด ต้องสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าของการท่องเที่ยวเวียดนามบนพื้นฐานของผู้คน แหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศ ต้องประสานงานและเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพระหว่างสถานประกอบการกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งระหว่างทางการส่วนกลางกับท้องถิ่น ระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน เป็นต้น เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสร้างสรรค์ห่วงโซ่คุณค่าการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวแห่งชาติและโลก”.