นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุมประจำปี 2024 ฟอรั่มเศรษฐกิจโลกครั้งที่ 15 ณ เมืองต้าเหลียนหรือ WEF ต้าเหลียน |
ภายใต้หัวข้อ “พรมแดนใหม่สำหรับการเติบโต” ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับหนึ่งในประเด็นที่รัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศและชุมชนสถานประกอบการให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆคือการฟันฝ่าขีดจำกัดเพื่อการเติบโต การแสวงหาเส้นทางและรูปแบบการเติบโตใหม่ๆ การใช้ศักยภาพและโอกาสการพัฒนาใหม่ๆ ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง
ในการกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า ความสำเร็จของเวียดนามในตลอดเกือบ 40 ปีที่ผ่านมามีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยสำคัญๆ นั่นคือ การเปลี่ยนแปลงใหม่ ความคิดสร้างสรรค์และการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก จากประเทศที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสงคราม ถูกโดดเดี่ยวและถูกคว่ำบาตรเป็นเวลา 30 ปี เวียดนามได้กลายเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง เป็น 1 ใน 40 ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อก้าวไปสู่ “พรมแดนใหม่สำหรับการเติบโต" นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้ทุกฝ่ายสร้างสรรค์และเสริมสร้างความไว้วางใจ ให้ความสำคัญต่อการสนทนา ส่งเสริมจิตใจแห่งความสามัคคี ความเป็นเอกภาพ ความร่วมมือ การพัฒนา และแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพบนพื้นฐานของกฎหมาย ค้ำประกันความกลมกลืนระหว่างผลประโยชน์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ระบุปัญหาทางการเมืองให้เกี่ยวข้องกับปัญหาอื่นๆและไม่เลือกปฏิบัติต่อวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก
นายกรัฐมนตรีมีความประสงค์ว่า WEF และหุ้นส่วนต่างๆส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ส่งเสริมบทบาทของผู้บุกเบิกในการเป็นผู้นำและกำหนดแนวทางการพัฒนาและการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจระดับประเทศ ภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะในการจัดทำและปรับปรุงกลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดให้มีความสมบูรณ์ รวมทั้ง การระดมและการใช้พลังทุกแหล่งอย่างมีประสิทธิภาพและยกระดับประสิทธิภาพของธรรมาภิบาลระดับชาติ การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โครงสร้างพื้นฐานทางสังคม โครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข การศึกษา การฝึกอบรมและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพสูงสำหรับพลังขับเคลื่อนแห่งการเติบโตใหม่ เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน
“เวียดนามจะมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งในเชิงรุกอย่างต่อเนื่องเพื่อประชาคมอาเซียนที่มีความแข็งแกร่งในทุกด้าน มีความสามัคคี ร่วมมือและมีความเป็นเอกภาพในความหลากหลาย ร่วมมือกับอาเซียนเพื่อประสานงานอย่างใกล้ชิดกับจีน ฟอรั่มเศรษฐกิจโลกและหุ้นส่วนต่างๆเพื่อส่งเสริมพลังขับเคลื่อนแห่งการเติบโตใหม่ พยายามธำรงและส่งเสริมบรรยากาศสันติภาพ เสถียรภาพ ร่วมมือและพัฒนาในภูมิภาคและโลก เพื่อโลกที่ดีงาม มีความยุติธรรม เสมอภาค กลมกลืนและยั่งยืน เราต้องสามัคคี ให้ความสำคัญต่อลัทธิพหุภาคีและสิทธิมนุษยชนและร่วมกันมุ่งสู่ “พรมแดนใหม่สำหรับการเติบโต" เพื่อการพัฒนาที่เจริญรุ่งเรืองของโลก เพื่อชีวิตที่มีความสุขและดีขึ้นของประชาชนทุกคนและของมนุษยชาติ”
ส่วนในช่วงเที่ยง นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมและกล่าวปราศรัยในการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้นำด้านเศรษฐกิจโลก Informal Gathering of World Economic Leaders หรือ IGWEL เกี่ยวกับ “ความร่วมมือเพื่อมุ่งสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ.”