(VOVworld) – ตามคำเชิญของท่านเจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศเวียดนาม เที่ยงวันที่ 22 พฤษภาคม นายบันคีมูน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติและภริยาได้เดินทางถึงกรุงฮานอย เริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 22-23 พฤษภาคม ส่วนในตอนบ่าย หลังพิธีต้อนรับอย่างสมเกียรติ ณ ทำเนียบประธานประเทศ ท่านเจืองเติ๊นซางและนายบันคีมูนได้มีการหารือและแจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์ในเวียดนามและกิจกรรมที่ได้รับสิทธิพิเศษของสหประชาชาติในเวลาที่ผ่านมา เน้นหารือมาตรการแก้ไขเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือในหลายด้านระหว่างเวียดนามกับสหประชาชาติในเวลาข้างหน้า ประธานประเทศเวียดนามชื่นชมการสนับสนุนและการช่วยหลือเวียดนามในหลายด้านที่มีประสิทธิภาพของสหประชาชาติในภารกิจการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและในการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ นายบันคีมูนเห็นว่า เวียดนามเป็นประเทศนำหน้าประเทศหนึ่งในการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษและชื่นชมเวียดนามที่ได้ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการพัฒนาหน่วยงานเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งระดมแหล่งพลังต่างๆให้แก่การพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องกันเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องผลักดันการอนุมัติระเบียบวาระการประชุมว่าด้วยการพัฒนาหลังปี 2015 เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่างๆและพยายามบรรลุข้อตกลงระหว่างประเทศฉบับใหม่เกี่ยวกับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในปี 2015 โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่สหประชาชาติกำลังเตรียมให้แก่พิธีฉลองครบรอบ 70 ปีการก่อตั้ง

ประธานประเทศเวียดนามเจืองเติ๊นซางยืนยันว่า ในฐานะเป็นประเทศสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของประชาคมระหว่างประทเศ เวียดนามจะเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของประชาคมระหว่างประเทศอย่างกระตือรือร้น ขยายความร่วมมือกับประเทศสมาชิกในการแก้ไขปัญหาระดับโลกต่างๆ รวมทั้งการรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ “พวกเราต่างชื่นชมบทบาทและส่วนร่วมของสหประชาชาติในตลอด 70 ปีที่ผ่านมาและหารือเกี่ยวกับมาตรการเพื่อขยายบทบาทของสหประชาชาติในการแก้ไขความท้าทายต่อสันติภาพ ความมั่นคงของโลกและภูมิภาค ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและโลก ทุกประเทศต้องปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายสากลอย่างเคร่งครัด ให้ความเคารพเอกราช อธิปไตยและบูรณะภาพแห่งดินแดนของทุกฝ่าย แก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธี โดยไม่ข่มขู่หรือใช้กำลังอาวุธในความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ”

ประธานประเทศได้แจ้งให้นาย บันคีมุนทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลตะวันออก โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวเมื่อเร็วๆนี้ รวมทั้งเสนอให้นาย บันคีมุน และสหประชาชาติให้ความสนใจและมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งในการผลักดันให้ฝ่ายต่างๆแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วนสันติวิธีและสอดคล้องกับหลักการขั้นพื้นฐานของกฎบัติสหประชาชาติและกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982