ท่านNguyễn Tấn Dũng นายกรัฐมนตรีเวียดนามทบทวนนิมิตรหมายสำคัญของอาเซียนภายหลัง๔๕ปีที่ก่อตั้ง
(VOVworld) – เอกภาพในความหลากหลายคือปัจจัยประการแรกที่สร้างภาพลักษณ์และสถานะของอาเซียน
|
ท่านNguyễn Tấn Dũng นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้มีบทปราศรัยโดยทบทวนนิมิตรหมายสำคัญของอาเซียนภายหลัง๔๕ปีที่ก่อตั้งและพัฒนา
|
(VOVworld) – ในโอกาสรำลึกครบรอบ๔๕ปีการจัดตั้ง สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนซึ่งตรงกับวันที่๘สิงหาคมและครบรอบ๑๗ปีเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนช่วงปี๑๙๙๕ถึงปี๒๐๑๒ ท่านNguyễn Tấn Dũng นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้มีบทปราศรัยโดยทบทวนนิมิตรหมายสำคัญของอาเซียนภายหลัง๔๕ปีที่ก่อตั้งและพัฒนาโดยย้ำว่า ปัจจัยชี้ขาดประการแรกที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์และสถานะของอาเซียนคือสามารถธำรงเอกภาพในความหลากหลาย สร้างพลังที่เข้มแข็งร่วมจากความเป็นเอกภาพและความสามัคคีและวิธีการอาเซียนโดยท่านNguyễn Tấn Dũngได้กล่าวว่า จาก๔ทศวรรษครึ่งที่ขยายความร่วมมือและผลักดันการเชื่อมโยงอย่างไม่หยุดยั้ง อาเซียนสามารถสร้างสถานะที่สำคัญในภูมิภาคและโลก ทุกวันนี้ ก่อนที่อาเซียนจะรวมเป็นประชาคมในปี๒๐๑๕ อาเซียนกำลังมีการพัฒนาอย่างเข้มแข็งซึ่งควบคู่กับการลดช่องว่างของการพัฒนา ขยายความสัมพันธ์ในหลายด้านแบบประสานผลประโยชน์กับบรรดาหุ้นส่วนนอกกลุ่มอาเซียน อาเซียนได้กลายเป็นศูนย์กลางของกระบวนการสนทนาและร่วมมือที่สำคัญ เช่น อาเซียนบวก๑ อาเซียนบวก๓ การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกหรือEAS ฟอรั่มภูมิภาคอาเซียนหรือARFซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนที่เข้มแข็งเพื่อผลักดันความร่วมมือและการเชื่อมโยงภูมิภาคในเอเชียตะวันออก ท่านNguyễn Tấn Dũngได้ยืนยันว่า ปัจจัยชี้ขาดประการแรกที่สร้างภาพลักษณ์และสถานะของอาเซียนคือการธำรงเอกภาพในความหลากหลาย สร้างพลังขับเคลื่อนร่วมจากความเป็นเอกภาพและความสามัคคีและวิธีการอาเซียน “อาเซียนเชิดชูความเห็นที่ตรงกัน ให้ความเคารพและช่วยเหลือกัน ร่วมกันให้ความสนใจและประสานอย่าง กสมกลืนระหว่างผลประโยชน์ของประชาชาติกับผลประโยชน์ของประชาคม พลังที่เข้มแข็งของความสามัคคีอาเซียนได้พิสูจน์ให้เห็นเมื่ออาเซียนฟันฝ่าวิกฤติทางการเงินในช่วงปี๑๙๙๗ ๑๙๙๘อย่างมั่นคง ประสานและช่วยเหลือกันในการแก้ไขผลเสียหายอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ โรคระลาดครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อภูมิภาค ความสามัคคีและความเป็นเอกภาพเป็นกุญแจเพื่อสร้างเครดิตและความไว้วางใจของอาเซียนในความสัมพันธ์กับบรรดาหุ้นส่วนนอกกลุ่มอาเซียน” ./.