ตามรายงานของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ไต้ฝุ่นยางิถือเป็นพายุที่มีกำลังแรงที่สุดในทะเลตะวันออกในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา การไหลเวียนของบรรยากาศระดับต่ำแบบปิดของพายุและช่วงหลังพายุส่งผลกว้างขวางทั่วทั้งภาคเหนือจนถึงจังหวัดแทงฮ้วา (ประกอบด้วย 26 จังหวัดและนคร) สำหรับความเสียหายเบื้องต้น เนื่องจากมีหลายท้องถิ่นไฟฟ้าดับและการสื่อสารขัดข้องทำให้ยังไม่สามารถประมาณความเสียหายได้อย่างแม่นยำ เบื้องต้นมีการระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตประมาณ 10 ราย บาดเจ็บเกือบ 200 ราย เรือ 25 ลำจมที่จุดทอดสมอในเมืองกว๋างนิงห์ บ้านเรือนเสียหายเกือบ 3,300 หลัง เสาไฟฟ้าหักกว่า 400 ต้น ร้านค้า สำนักงานและโรงเรียนหลายแห่งหลังคาพังเสียหาย ต้นไม้ในเมืองล้มหัก ในด้านการเกษตร นาข้าวและพืชผลถูกน้ำท่วมกว่า 121,500 เฮกตาร์ ต้นไม้ผลเสียหายกว่า 5,000 ต้น กระชังเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกว่า 1,000 แห่งได้รับความเสียหาย
กล่าวในที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าพายุยางิพัดถล่มแผ่นดินใหญ่เป็นเวลานานกว่าหนึ่งวันได้ก่อให้เกิดผลเสียหายที่ร้ายแรง อิทธิพลหลังพายุจะยังคงทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมโดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขาทางตอนเหนือ นายกรัฐมนตรีกำชับให้มีการตรวจสอบและช่วยเหลือท้องถิ่นและครอบครัวของผู้เสียชีวิตโดยทันที เร่งดำเนินงานแก้ไขผลเสียหาย จัดการปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้คน การผลิตและการรับมือปัญหาดินถล่มอย่างทันการณ์
หลังการประชุมนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์การรับมือผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นยางิในบางพื้นที่.