นายเลืองหว่างท้าย อธิบดีกรมนโยบาย การค้าพหุภาคีสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามเผยว่า ซีพีทีพีพี แม้ไม่มีสหรัฐแต่ยังคงคำมั่นต่างๆเกี่ยวกับการเปิดตลาด ดังนั้นด้านต่างๆ เช่น สินค้าการเกษตร สัตว์น้ำ สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปและรองเท้า เป็นต้น ก็ได้รับความเห็นพ้องในระดับสูง นอกจากนี้ ซีพีทีพีพียังเปิดโอกาสให้เวียดนามเจาะตลาดใหม่ๆ เช่น แคนาดา เม็กซิโกและเปรู โดยเฉพาะจะส่งผลดีต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงเกษตรกรและชาวประมงเพื่อช่วยแก้ปัญหาความยากจน

ในการส่งออก จากการมีตลาดที่มีประชากรประมาณ 500 ล้านคนในประเทศที่มีเศรษฐกิจค่อนข้างสูงจะเอื้อประโยชน์ต่อเวียดนามอย่างเห็นได้ชัด โดยนอกจากการส่งออกสินค้า เวียดนามยังมีโอกาสพัฒนาหน่วยงานต่างๆ เช่น การให้บริการ การลงทุนและการจัดซื้อจัดจ้างจากประเทศอื่นๆ สำหรับการเปิดตลาดของเวียดนาม ซีพีทีพีพีจะนำผลประโยชน์ทางอ้อมมาให้แก่เวียดนามมากกว่าผลประโยชน์ทางตรง เพราะผลการวิจัยของธนาคารโลกปรากฎว่า จีดีพีของเวียดนามจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากผลประโยชน์โดยตรงแต่จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 จากผลประโยชน์ทางอ้อมของซีพีทีพีพี และหากข้อตกลงฉบับนี้ได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ จะเอื้อประโยชน์เพิ่มต่อเวียดนามเนื่องจากการปลอดภาษีศุลกากร.