สำหรับนโยบายภายในประเทศและการต่างประเทศ นาง อินหายฮุ้ง ได้เผยว่า ในระยะใหม่ จีนจะทำการปฏิรูปในเชิงลึกเพื่อผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วเป็นการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง พยายามจนถึงปี 2020 จะสร้างสรรค์สังคมที่ร่ำรวยในทุกด้านให้ประสบความสำเร็จ ในช่วงปี 2020 - 2035 จะสร้างสรรค์ระบบสังคมนิยมตามแนวทางที่ทันสมัยและในช่วงปี 2035-2050 จะสร้างสรรค์ประเทศจีนให้เป็นประเทศมหาอำนาจตามแนวทางสังคมนิยมที่ทันสมัย มีประชาธิปไตย อารยธรรม มีความกลมกลืนและสวยงาม สร้างสรรค์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่และยืนหยัดแนวทางการพัฒนาประเทศอย่างสันติ
สำหรับความสัมพันธ์กับเวียดนาม นาง อินหายฮุ้ง ได้ยืนยันว่า“เวียดนามคือประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดของจีน จีนให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับเวียดนาม โดยหลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 นาย สีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เลือกเวียดนามเป็นประเทศแรกที่เดินทางไปเยือนและหลังการประชุมรัฐสภา นาย หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนก็ได้เดินทางมาเยือนเวียดนาม ซึ่งเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของสมาชิกรัฐบาลชุดใหม่ จากความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ความสัมพันธ์ทวิภาคีกำลังย่างเข้าสู่ระยะความร่วมมือที่ดีงามบนพื้นฐานที่มั่นคง”
นาง อินหายฮุ้งยังได้ย้ำถึงปัจจัยที่สำคัญของการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีคือความจริงใจของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ดังนั้น หน่วยงานสื่อสารมวลชนจึงมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และมีความประสงค์ว่า หน่วยงานสื่อสารมวลชนของเวียดนามจะเป็นสะพานเชื่อมเพื่อขยายความเข้าใจระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ อีกทั้งกระชับความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค.