ภาพของพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสองประเทศ

ในด้านการเมืองและการต่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ  พร้อมทั้ง ยืนยันที่จะประสานงานอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก เช่น อาเซียน อาเซม อียูและสหประชาชาติ  ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้เสนอให้ประธานาธิบดี มิลอส เซมานให้การสนับสนุนและผลักดันการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอระหว่างเวียดนามกับอียูและรับรองเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามโดยเร็ว  สำหรับด้านการค้าและการลงทุน  ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องเกี่ยวกับเนื้อหาของการประชุมคณะกรรมการร่วมรัฐบาลเวียดนาม-สาธารณรัฐเช็กที่คาดว่า จะมีขึ้นในต้นปี2018  พร้อมทั้ง ยืนยันว่า เวียดนามจะอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการสาธารณรัฐเช็กที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามในด้านที่สาธารณรัฐเช็กมีจุดแข็งและเวียดนามต้องการ  ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา วัฒนธรรม การท่องเที่ยวและกลาโหม

สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องเกี่ยวกับความสำคัญของการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลตะวันออก  โดยเห็นว่า ต้องแก้ไขปัญหาการพิพาทอย่างสันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากล  รวมทั้ง อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี1982  แถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและมุ่งสู่การจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว

หลังการเจรจา  ประธานประเทศเวียดนามและประธานาธิบดีสาธารณรัฐเช็กได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมและข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดน  ซึ่งจะสร้างพื้นฐานทางนิตินัยให้แก่ความร่วมมือระหว่างสำนักงานบังคับใช้กฎหมายของทั้งสองประเทศในอนาคต

ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร่วมกัน ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้ยืนยันว่า ทั้งสองฝ่ายได้ประสบความสำเร็จในการเจรจา“จากพื้นฐานที่มั่นคงของความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานที่ได้รับการทำนุบำรุงในตลอด67ปีที่ผ่านมา ผมมีความประสงค์ว่า ความร่วมมือระหว่างสองประเทศจะได้รับการพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่และตอบสนองความปรารถนาของประชาชนทั้งสองประเทศ  ชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศสาธารณรัฐเช็กจะเป็นสะพานเชื่อมเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ”

ส่วนประธานาธิบดีสาธารณรัฐเช็กได้ย้ำถึงประสิทธิภาพของการเยือนครั้งนี้ว่า“ในคณะที่เดินทางมาเยือนเวียดนามครั้งนี้ มีสถานประกอบการ68แห่ง ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า สาธารณรัฐเช็กมีความประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือกับเวียดนาม  เมื่อวันที่6มิถุนายน  ในฟอรั่มสถานประกอบการ  ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ7ฉบับในด้านต่างๆ  โดยเฉพาะ  ข้อตกลงที่มีมูลค่า20ล้านดอลลาร์สหรัฐในด้านการก่อสร้างรีสอร์ทในภาคกลางเวียดนาม  นี่เป็นข้อตกลงฉบับแรกและหวังว่า ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวจะได้รับการพัฒนาในเวลาที่จะถึง”.