(VOVworld) – ในกรอบการประชุมระดับสูงความร่วมมือระหว่างกัมพูชา-ลาว-เมียนมาร์-เวียดนามครั้งที่8 (CLMV8) การประชุมระดับสูงยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง ครั้งที่7 (ACMECS7)  และการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกแม่โขงหรือ WEF-Mekong เช้าวันที่ 24 ตุลาคม ณ กรุงฮานอย ได้มีการจัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโส SOM ความร่วมมือระหว่างกัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม เพื่อทำการหารือและเห็นพ้องกันเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการและมาตรการร่วมมือเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจ ผลักดันการผสมผสานของอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงเพื่อยื่นเสนอต่อที่ประชุม CLMV8 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคมนี้
ในการนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสกัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนามได้เผยว่า อนุภูมิภาคแม่น้ำโขงกำลังย่างเข้าสู่ระยะแห่งการพัฒนาใหม่โดยมีโอกาสแห่งการพัฒนาที่ไม่เคยมีมาก่อนแต่ในขณะเดียวกันก็ประสบความท้าทายไม่น้อย จากการดำเนินนโยบายที่ถูกต้องและการประสานงานอย่างใกล้ชิดในกรอบและระเบียบความร่วมมือระหว่าง 4 ประเทศ ศักยภาพและจุดแข็งของอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงได้รับการส่งเสริมและมีส่วนร่วมค้ำประกันความคืบหน้าของการขยายตัวทางเศรษฐกิจของบรรดาประเทศในเขตอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง
ในการกล่าวปราศรัยปิดการประชุม นายหวูกวางมิงห์ หัวหน้า SOM ของกลไกความร่วมมือ CLMV ฝ่ายเวียดนามเผยว่า การประชุมในเช้าวันที่ 24 ตุลาคมได้เสร็จสิ้นการจัดทำร่างเอกสาร ระเบียบวาระการประชุมและเนื้อหาที่สำคัญๆเพื่อยื่นเสนอต่อที่ประชุมระดับสูง โดยเฉพาะได้เห็นพ้องกันเกี่ยวกับเอกสารที่สำคัญที่สุดของการประชุมระดับสูงคือ แถลงการณ์ร่วมเพื่อวางแนวทางให้แก่การพัฒนาและเนื้อหาที่สำคัญที่สุดของความร่วมมือระหว่างกัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม โดยกล่าวว่า     “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกเราได้ตัดสินใจเชิญตัวแทนขององค์กรพัฒนาและองค์กรพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของอนุภูมิภาค เช่น ธนาคารพัฒนาเอเชียหรือเอดีบี คณะกรรมการเศรษฐกิจ – สังคมเอเชีย – แปซิฟิกเข้าร่วม นี่คือความคิดริเริ่มที่สำคัญของเวียดนาม เพื่อช่วยให้ผู้อุปถัมภ์และประชาคมระหว่างประเทศมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับความสำคัญของการพัฒนาอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงและกลไกความร่วมมือ CLMV”.