ภาพประกอบข่าวจาก THX/TTXVN

มติฉบับดังกล่าวได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ส่งเสริมการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน ปลอดภัย และไม่มีการขัดขวางต่อพลเรือนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ปล่อยตัวประกันทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข จัดตั้งกลไกของสหประชาชาติโดยเร็วเพื่อเร่งกระบวนการจัดส่งสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังฉนวนกาซาผ่านกลุ่มประเทศที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปะทะ พร้อมค้ำประกันว่า สิ่งของบรรเทาทุกข์สามารถเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าว สหรัฐฯ ไม่ได้ใช้สิทธิ์วีโต้ ถึงแม้ไม่เห็นด้วยกับมติฉบับนี้ โดยนาง Linda Thomas-Greenfield เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ ได้เผยว่า ตั้งแต่การปะทะระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลเกิดขึ้น ทางการสหรัฐฯ ได้พยายามมีส่วนช่วยในการบรรเทาวิกฤตด้านมนุษยธรรมและมุ่งหวังให้ตะวันออกกลางมีสันติภาพอย่างยั่งยืน.