คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอนุมัติมติคว่ำบาตรใหม่ต่อเปียงยาง (AP)

(VOVworld) – เมื่อวันที่ 2 มีนาคม คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้อนุมัติมติที่เสนอโดยสหรัฐเกี่ยวกับการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเพื่อตอบโต้การทดลองนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 6 มกราคมและการยิงขีปนาวุธเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ตามมติดังกล่าว นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่สินค้าทุกชนิดทั้งเข้าและออกจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีจะต้องถูกตรวจสอบ รวมทั้งการห้ามเรือของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีที่ต้องสงสัยว่ากำลังบรรทุกสินค้าผิดกฎหมายออกจากท่าเรือต่างๆในทั่วโลก ตลอดจนเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายห้ามซื้อขายอาวุธเพื่อขัดขวางผู้ค้าขายอาวุธรายย่อยติดต่อกับเปียงยาง มติคว่ำบาตรดังกล่าวยังห้ามการส่งออกถ่านหิน แร่ธาตุ ทองคำ ไทเทเนียมและแร่ธาตุหายาก รวมทั้งห้ามประเทศต่างๆจัดสรรค์เชื้อเพลิงด้านการบินให้แก่เปียงยาง ส่วนในด้านการเงินและธนาคาร มติคว่ำบาตรรอบใหม่ได้สั่งให้ประเทศต่างๆอายัดทรัพย์สินของบุคคลและหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเปียงยาง ตลอดจนห้ามไม่ให้ทุกประเทศอนุญาตให้ธนาคารต่างๆของเปียงยางเปิดสาขาหรือสำนักงานตัวแทนและห้ามสถาบันการเงินจัดตั้งบริษัทร่วมทุน สถาปนาหรือรักษาความสัมพันธ์ด้านข้อมูลกับธนาคารต่างๆของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี

หลังจากที่มติได้รับการอนุมัติ ประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐ อังกฤษและสาธารณรัฐเกาหลีได้ชื่นชมก้าวเดินใหม่นี้ของสหประชาชาติ

โฆษกของเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้กล่าวชี้ชัดว่า มติของคณะมนตรีความมั่นคงได้แสดงให้เห็นสาส์นที่ว่า เปียงยางต้องปฏิบัติหน้าที่ระหว่างประเทศของตนอย่างจริงจังและนี่จะเป็นการเปิดโอกาสให้แก่การรื้อฟื้นการเจรจา69ฝ่ายที่สอดคล้องกับทัศนะของประชาคมระหว่างประเทศ ในขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำสหประชาชาติได้กล่าวว่านี่เป็นมติที่มีลักษณะก้าวกระโดดและมาตรการลงโทษต่างๆมิใช่เป้าหมายสุดท้ายของมตินี้ ซึ่งผู้แทนของจีนประจำสหประชาชาติก็ได้แสดงความเห็นพ้องกับทัศนะของผู้แทนญี่ปุ่นและประกาศว่านี่จะเป็นการเริ่มต้นใหม่และเป็นพื้นฐานกระตุ้นการแก้ไขปัญหานิวเคลียร์ของเปียงยาง ส่วนเอกอัครราชทูตรัสเซียได้แสดงความหวังว่า การเจรจาว่าด้วยปัญหานิวเคลียร์ของเปียงยางจะได้รับการรื้อฟื้นโดยเร็ว.

ส่วนสำนักข่าวยอนฮับของสาธารณรัฐเกาหลีรายงานข่าวเมื่อเวลา 10 นาฬิกาเช้าวันที่ 3 มีนาคมว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้มายังริมฝั่งทะเลทางทิศตะวันออกของประเทศนี้.