เมืองเยรูซาเลม (Reuters) |
ในขณะเดียวกัน ประเทศและองค์การต่างๆยังคงตำหนิสหรัฐหลังจากทางการวอชิงตันใช้สิทธิวีโต้ร่างมติโดยอียิปต์เสนอเกี่ยวกับฐานะทางนิตินัยของเยรูซาเลมในการลงคะแนนในการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม
ในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นาย อาห์เหม็ด อาบูล เกอิต เลขาธิการสันนิบาตอาหรับได้ยืนยันว่า ท่าทีดังกล่าวของสหรัฐจะทำให้สหรัฐถูกโดดเดี่ยว ในวันเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านได้ออกแถลงการณ์ตำหนิท่าทีดังกล่าวของสหรัฐ โดยถือว่า นี่คือก้าวเดินที่ “ขาดความรอบคอบ” และ “สหรัฐไม่ปฏิบัติตามมติระหว่างประเทศต่างๆ” ส่วนรัฐบาลคูเวตได้คัดค้านท่าทีนี้ของสหรัฐ และเรียกร้องให้ประชาคมโลกคัดค้านการตัดสินใจรับรองเมืองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และย้ายสถานทูตมาที่เยรูซาเลม ส่วนรองนายกรัฐมนตรีตุรกีได้ตำหนิการที่สหรัฐใช้สิทธิวีโต้มติเกี่ยวกับฐานะทางนิตินัยของเยรูซาเลม และแสดงความเห็นว่า สหรัฐไม่ควรเดินสวนกับกฎหมายสากล
สำหรับปัญหานี้ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ณ กรุงฮานอย เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำเวียดนาม Saadi Salama ได้พบปะกับสื่อมวลชนโดยแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่เกี่ยวข้องถึงทัศนะใหม่ของสหรัฐต่อปัญหาเยรูซาเลม โดยยืนยันว่า เยรูซาเลมคือดินแดนส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกจากพื้นที่ที่ถูกยึดครองของปาเลสไตน์ ปาเลสไตน์ชื่นชมคำมั่นของประชาคมโลกต่อกฎหมายสากลเกี่ยวกับสิทธิของชาวปาเลสไตน์ ทางการปาเลสไตน์มีแนวทางเลือกมาตรการที่สันติในการแก้ไขการปะทะระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล และกำลังพยายามระดมกองกำลังและองค์กรการเมืองต่างๆของปาเลสไตน์เพื่อประสานงานในการแสวงหาเสียงพูดเดียวกันเพื่อแก้ไขปัญหานี้.