|
เวียดนามมีแรงงานที่ได้รับเงินเดือนประมาณร้อยละ 33.8 ส่วนที่เหลือคือแรงงานอิสระในภาคเศรษฐกิจต่างๆ (Internet) |
(VOVworld) – วันที่ 11 เมษายน ที่ประชุมครั้งที่ 17 คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาได้แสดงความคิดเห็นต่อร่างกฏหมาย 3 ฉบับได้แก่ ร่างกฏหมายงานทำ ร่างกฏหมายการป้องกันและลดภัยธรรมชาติและร่างกฏหมายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฉบับแก้ไขโดยท่าน Nguyễn Sinh Hùng ประธานรัฐสภาเป็นประธานการประชุมในช่วงเช้า บรรดาผู้แทนได้หารือเกี่ยวกับร่างกฏหมายงานทำโดยได้เห็นพ้องกันว่า จำเป็นต้องประกาศใช้กฏหมายงฉบับนี้เนื่องจากปัจจุบัน เวียดนามมีแรงงานที่ได้รับเงินเดือนประมาณร้อยละ 33.8 ส่วนที่เหลือคือแรงงานอิสระในภาคเศรษฐกิจต่างๆ ดังนั้น ร่างกฏหมายงานทำต้องเน้นถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับนโยบายให้การช่วยเหลืองานทำแก่แรงงานโดยบรรดาผู้แทนส่วนใหญ่ได้เห็นพ้องกับข้อกำหนดเกี่ยวกับนโยบายงานทำ เช่น นโยบายสินเชื่อเพื่อสร้างงานทำ การช่วยเหลือแรงงานไปทำงานในต่างประเทศตามสัญญาและการช่วยเหลือสร้างงานทำให้แก่เยาวชน พร้อมทั้งเสนอว่า ร่างกฏหมายต้องเพิ่มข้อกำหนดหลายข้อเพื่อเชื่อมโยงนโยบายสร้างงานทำกับนโยบายประกันการว่างงาน ร่างกฏหมายงานทำได้ขยายกลุ่มเป้าหมายในการประกันการว่างงานคือ แรงงานอิสระ ผู้แทนหลายท่านได้แสดงความเห็นว่า ขณะนี้ มีแรงงานอิสระซึ่งเป็นแรงงานที่ไม่ได้ทำสัญญาจ้างงานกับองค์กรหรือบริษัทใดประมาณร้อยละ 70 ดังนั้นจำเป็นต้องมีมาตรการต่างๆเพื่อดึงดูดแหล่งแรงงานเหล่านี้ให้เข้าร่วมการประกันการว่างงานเพื่อเพิ่มความมั่นคงในการทำงานในขณะที่ตลาดแรงงานกำลังพัฒนา แต่อย่างไรก็ตาม ผู้แทนบางท่านได้เสนอว่า ร่างกฏหมายนี้ต้องระบุระเบียบการ และกระบวนการขยายกลุ่มเป้าหมายในการประกันการว่างงานให้มีความเหมาะสม
ส่วนในช่วงบ่าย บรรดาผู้แทนได้แสดงความคิดเห็นต่อร่างกฏหมายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฉบับแก้ไขโดยเนื้อหาเกี่ยวกับระเบียบการเงินสำหรับงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อแก้ไขสถานการณ์การขาดประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและการใช้งบประมาณที่ไม่ตรงตามเป้าหมาย ร่างกฏหมายฉบับนี้ได้ระบุว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นผู้เสนองบประมาณในการลงทุนพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ผู้แทนส่วนใหญ่ได้แสดงความเห็นว่า จำเป็นต้องกำหนดเนื้อหาดังกล่าวให้สอดคล้องกับการบริหารงบประมาณของรัฐในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ประชุมยังเห็นพ้องกับการแก้ไขข้อกำหนดเกี่ยวกับการเบิกจ่ายหลังจากที่ทำการตรวจสอบแล้วเพื่อเพิ่มความรับผิดชอบและลดระเบียบราชการในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใช้งบประมาณของรัฐ./.