นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กและนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ |
การเยือนครั้งนี้ได้ช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจกันภายหลัง 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและ 5 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องขยายความร่วมมือด้านความมั่นคง กลาโหม โดยเฉพาะความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ต สร้างสรรค์อาเซียนที่มีความสามัคคี พึ่งพาตนเอง มีความสร้างสรรค์ ธำรงบทบาทเป็นศูนย์กลางในโครงสร้างต่างๆของภูมิภาค แลกเปลี่ยนจุดยืนร่วมของอาเซียนเกี่ยวกับทะเลตะวันออก คือจะธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก แก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธี ให้ความเคารพกระบวนการทางการทูตและนิตินัย ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้ความรุนแรงบนพื้นฐานกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 สนับสนุนการปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ เสร็จสิ้นการจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว รัฐมนตรีช่วยเหงียนก๊วกหยุงได้เผยว่า ไฮไลท์ของการเยือนครั้งนี้คือสร้างกรอบความเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลกับสถานประกอบการและระหว่างสถานประกอบการของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในฟอรั่มสถานประกอบการ มีผู้แทนเกือบ 700 คนเข้าร่วม โดยมีการลงนามในเอกสารกว่า 20 ฉบับในด้านที่สำคัญๆ รวมมูลค่าเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการประชุมระดับสูงอาเซียนครั้งที่ 32 รัฐมนตรีช่วยเหงียนก๊วกหยุงได้เผยว่า ที่ประชุม ผู้นำอาเซียนได้ยืนยันอีกครั้งว่า การธำรงสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในทะเลตะวันออกคือผลประโยชน์และความรับผิดชอบของทุกประเทศในภูมิภาค ในการประชุมครั้งนี้ เวียดนามได้เข้าร่วมประชุมนัดต่างๆอย่างกระตือรือร้นและเป็นฝ่ายรุก พร้อมทั้งมีส่วนร่วมต่อการจัดทำเอกสารฉบับต่างๆของการประชุม นายกรัฐมนตรีเวียดนามสนับสนุนเนื้อหาของการประชุมและปัญหาที่อาเซียนที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในปี 2018 เสนอแนวทางขยายความร่วมมืออาเซียนและความร่วมมือกับหุ้นส่วนต่างๆบนเจตนารมณ์ส่งเสริมการพึ่งพาตนเองและความสร้างสรรค์ของอาเซียน.