การเจรจาระหว่างรัฐบาลเวียดนาม-ลาว
|
(VOVworld) – การเยือนลาวของนายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุง เป็นการยืนยันถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของทั้งสองประเทศในการขยายความสัมพันธ์สามัคคีพิเศษ นี่คือคำยืนยันของนาย เลหว่ายจุง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในโอกาสที่นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงและคณะผู้แทนระดับสูงของรัฐบาลเวียดนามเสร็จสิ้นการเยือนลาวด้วยผลสำเร็จอย่างงดงามในระหว่างวันที่ 13-14 กันยายน นาย เลหว่ายจุงได้เผยว่า ในกรอบการเยือน นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงได้เจรจาและพบปะกับนายกรัฐมนตรีลาว ทองสิงทำมะวงและบรรดาผู้นำของลาว ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและความสามัคคีพิเศษเวียดนาม-ลาวคือสมบัติอันล้ำค่า มีความหมายอยู่รอดต่อภารกิจการปฏิวัติของทั้งสองประเทศ อีกทั้ง เห็นพ้องเกี่ยวกับงานด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะผลักดันการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศผ่านข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ที่เพิ่งได้รับการลงนาม พิจารณาการแก้ไขปัญหานโยบาย ระเบียบการและขั้นตอนให้แก่สถานประกอบการทั้งสองประเทศและเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี 2015
สำหรับปัญหาระหว่างประเทศและภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือทวิภาคีและกับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆในการธำรงจุดยืนและเสียงพูดเดียวกันของอาเซียนในปัญหายุทธศาสตร์สำคัญในภูมิภาค รวมทั้งปัญหาทะเลตะวันออก นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงได้ยืนยันว่า เวียดนามจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อสนับสนุนลาวในการดำรงบทบาทประธานอาเซียนในปี 2016 ให้ประสบความสำเร็จ สำหรับความร่วมมือแม่โขง ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงที่เกี่ยวข้องในระดับกระทรวงของทั้งสองประเทศต่อไป
สำหรับโครงการสำรวจและทำเหมืองแร่โพแทสเซียมในประเทศลาวซึ่งเป็นโครงการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในต่างประเทศของเวียดนาม นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงได้ยืนยันว่า โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นกิจกรรมเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ให้แก่ทั้งสองประเทศเท่านั้น หากยังแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของพรรค รัฐและประชาชนเวียดนามต่อประเทศลาวและมีความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของลาว
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เลหว่ายจุงได้ยืนยันว่า ผลสำเร็จของการเยือนได้ยืนยันถึงความตั้งใจในระดับสูงของทั้งสองประเทศเกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการเมืองที่มีความไว้วางใจเป็นพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การขยายความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมทั้งวางแนวทางและมาตรการที่ทันการณ์และเป็นรูปธรรมเพื่อขยายความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศให้เข้มแข็งมากขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การเชื่อมโยงพลังงานและคมนาคมขนส่ง.