นายบุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม |
ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายบุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ยืนยันว่า การเยือนยุโรปตะวันตกครั้งแรกของท่านเหงียนซวนฟุ๊กในฐานะนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ประสบความสำเร็จ ซึ่งมีส่วนร่วมขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม – เยอรมนี ผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับเนเธอร์แลนด์ให้พัฒนาอย่างคล่องตัวและรอบด้าน ยกระดับสถานะและชื่อเสียงของเวียดนามบนเวทีโลก โดยเศรษฐกิจ – การค้าและการลงทุนคือเนื้อหาหลักในการเยือนครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊ก นครและรัฐต่างๆของเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ต่างแสดงความปรารถนาว่า จะร่วมมือกับเวียดนาม โดยเฉพาะกับท้องถิ่นต่างๆในด้านที่ถือเป็นจุดแข็งของเวียดนาม “เยอรมนีเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ในยุโรปของเวียดนาม เป็นประเทศที่มีจุดแข็งและศักยภาพสูง รัฐบาลส่วนกลางและแต่ละรัฐต่างมีศักยภาพในด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและจักรกล เมื่อนายกรัฐมนตรีเวียดนามเสนอให้เยอรมนีสนับสนุนเวียดนามในด้านเทคโนโลยีและประสบการณ์ในการบริหาร ทุกรัฐต่างให้คำมั่นว่า จะส่งเสริมให้สถานประกอบการและกลุ่มบริษัทรายใหญ่เข้ามาลงทุนในเวียดนามในด้านนี้ ส่วนสถานประกอบการก็ขานรับโดยลงนามในสัญญากับสถานประกอบการเวียดนาม ส่วนในการเยือนประเทศเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้ไปเยี่ยมชมการวางแผนรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและปัญหาน้ำทะเลหนุนในเขตที่ราบลุ่มของเนเธอร์แลนด์ โดยเฉพาะโครงการเกี่ยวกับการก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำตามวิธีการใหม่ ซึ่งจะเป็นโครงการร่วมมือที่เป็นรูปธรรมเพื่อช่วยให้เวียดนามรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในเวลาข้างหน้า”
ในฟอรั่มเศรษฐกิจที่เยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ เอกสารและข้อตกลงร่วมมือจำนวนมากได้รับการลงนามจากสถานประกอบการทั้งสองประเทศ
ส่วนคณะผู้แทนต่างๆที่เข้าร่วมการประชุมจี 20 ได้ให้ความสำคัญถึงบทบาท สถานะและการเข้าร่วมของเวียดนามในการประชุมครั้งนี้ โดยชื่นชมข้อเสนอที่มีลักษณะสร้างสรรค์และมีความรับผิดชอบของเวียดนามโดยแสดงความปรารถนาว่า เวียดนามจะส่งเสริมบทบาทเป็นประเทศเจ้าภาพของการประชุมเอเปก 2017 เพื่อผลักดันระเบียบวาระการประชุมเอเปกและเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การค้าเสรีและเสรีภาพในทั่วโลก.