การเจรจาระดับสูงเวียดนาม-ออสเตรีย (vietnamplus) |
โดยนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้หารือเกี่ยวกับมาตรการต่างๆเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกด้านทั้งด้านการเมือง การทูต ความมั่นคง กลาโหม เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การฝึกอบรม วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว แลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ ปฏิบัติกลไกความร่วมมือทวิภาคีที่กำลังมีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกลไกคณะกรรมการร่วมรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายแสดงความยินดีที่เวียดนามยังคงเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรียในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรียอยู่ในกลุ่ม 10 ประเทศส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในสหภาพยุโรปหรืออียู เห็นพ้องพยายามนำออสเตรียกลายเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนเศรษฐกิจชั้นนำของเวียดนามในยุโรป ส่งเสริมให้สถานประกอบการของทั้งสองประเทศผลักดันการเชื่อมโยงการลงทุน ร่วมมือในด้านที่จำเป็นให้แก่การพัฒนาของเวียดนาม
นายกรัฐมนตรี เซบาสเตียน คูร์ซ ย้ำว่า การเยือนออสเตรียครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก คือนิมิตหมายของความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และมีความประสงค์ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะมีก้าวเดินพัฒนาที่เข้มแข็งและรอบด้านมากขึ้นในเวลาที่จะถึง
นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก เสนอให้ออสเตรียให้ความสนใจ อำนวยความสะดวกเพื่อให้ชมรมชาวเวียดนามในออสเตรียปรับตัวและมีชีวิตที่มั่นคง
ผู้นำทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และคำมั่นในการผลักดันความร่วมมือทวิภาคีในฟอรั่มและองค์การระหว่างประเทศ ยืนยันถึงความสำคัญของการธำรงสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพให้แก่ความร่วมมือและการพัฒนา รวมทั้งปัญหาทะเลตะวันออก อีกทั้งเห็นพ้องกันว่า ต้องรักษาความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือ การบินในทะเลตะวันออก ให้ความเคารพหลักการ ใช้ความอดกลั้น ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้ความรุนแรง แก้ไขความขัดแย้งและการพิพาทด้วยสันติวิธี สอดคล้องกับกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982
หลังการเจรจา นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงฉบับต่างๆ เช่นข้อตกลงสนับสนุนโครงการ “ยกระดับอุปกรณ์การแพทย์ให้แก่ศูนย์เนื้องอก มะเร็ง เจอไหร่สังกัดโรงพยาบาล เจอไหร่” มูลค่า 25 ล้านยูโร บันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเวียดนามกับกระทรวงศึกษา วิทยาศาสตร์และวิจัยออสเตรีย
หลังจากเสร็จสิ้นการเจรจาเช้าวันที่ 15 ตุลาคม นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้พบปะกับสื่อมวลชนเพื่อแจ้งผลการเจราจา.