|
นาย สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการใหญ่อาเซียน (Internet) |
เมื่อวันที่๒๕กรกฎาคม ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ สำนักงานเลขานุการอาเซียนที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียเกี่ยวกับผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนหรือ AMMครั้งที่๔๕ และการประชุมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ณ กรุง พนมเปญ ประเทศ กัมพูชา นาย สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการใหญ่อาเซียนได้ยืนยันถึงความจำเป็นในการส่งเสริมความเชื่อมโยงและความสามัคคีระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ในการทบทวนกระบวนการปฏิบัติและผลงานที่บรรลุในการประชุมAMMครั้งที่๔๕ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง เช่น การประชุมระดับสูงระหว่างอาเซียนกับประเทศหุ้นส่วนหรือ อาเซียน+1 อาเซียน+3และฟอรั่มภูมิภาคอาเซียนครั้งที่๑๙ นาย สุรินทร์ พิศสุวรรณยังได้เผยว่า บรรดาประเทศอาเซียนได้มีความเห็นพ้องกันเกี่ยวกับปัญหาที่สำคัญต่างๆที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อมโยง การผสมผสานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนในปี๒๐๑๕และแถลงการณ์ว่าด้วยสิทธิมนุษยชนอาเซียน อาเซียนและบรรดาประเทศหุ้นส่วนได้ให้คำมั่นว่า จะส่งเสริมความร่วมมือเพื่อรักษาสันติภาพ ความมั่นคง ความมีเสถียรภาพและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก ในโอกาสนี้ นาย สุรินทร์ พิศสุวรรณได้ยืนยันว่า อาเซียนเป็นประชาคมที่มีเอกภาพแต่ควรส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิกให้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งย้ำว่า ปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและต้องได้รับการแก้ไขอย่างสันติบนพื้นฐานของการเคารพกฏหมายสากล รวมทั้ง อนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยกฏหมายทางทะล ปี๑๙๘๒ และได้แสดงความหวังว่า ค้วยความพยายามของอาเซียน ในโอกาสรำลึกครบรอบ๑๐ปีการลงนามแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการปฏิบัติของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือDOC การประชุมสุดยอดอาเซียนที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ณ ประเทศกัมพูชา จะมีความคืบหน้าใหม่ๆในการแก้ไขปัญหานี้ พร้อมทั้ง เผยว่า กลุ่มปฏิบัติงานของอาเซียนกำลังพิจารณาเกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต ซึ่งได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนในปี๒๐๑๕./.