ภาพของการประชุม (Photo: baomoi) |
ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ประเมินว่า จังหวัดเหิวยางมีจุดแข็งด้านการเกษตรและสัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์ มีปริมาณผลไม้ที่ผลิตได้ในระดับสูงและข้าวมีคุณภาพสูง สำหรับแนวทางการพัฒนาของจังหวัดฯผสานกับการดึงดูดการลงทุน ท่านนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทางการจังหวัดฯต้องมีวิสัยทัศน์การพัฒนาในกรอบการวางผังของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้ย้ำว่า ทางการจังหวัดฯต้องปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจ การสร้างสรรค์การสนทนา เดินพร้อมกับสถานประกอบการ ทางการทุกระดับต้องรับฟังและแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการ สร้างสรรค์บรรยากาศการทำธุรกิจ start up ควบคู่กันนั้นคือมาตรการยกระดับคุณภาพแหล่งบุคลากรเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน
“จังหวัดเหิ่วยางมีจำนวนผู้ที่อยู่ในวัยทำงานสูงกว่าระดับเฉลี่ยของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง การฝึกสอนอาชีพให้แก่แรงงานเพื่อบริการสถานประกอบการและการพัฒนาเป็นสิ่งที่จำเป็น ดังนั้น ถ้าทางการจังหวัดฯอยากดึงดูดการลงทุนเพื่อการพัฒนา ต้องให้ความสนใจต่อการฝึกอบรม แรงงาน โดยเฉพาะ แรงงานในชนบท ผลักดันการปรับเปลี่ยนสัดส่วนแรงงานจากภาคการเกษตรไปสู่ด้านอื่นๆอย่างมีประสิทธิภาพ”
ในการนี้ ท่านนายกรัฐมนตรียังได้เผยว่า รัฐบาลเวียดนามธำรงการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ สร้างรัฐบาลเพื่อการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์และบริสุทธิ์ รับใช้ประชาชนและสถานประกอบการผ่านการที่รัฐบาลพยายามกำชับให้ลดการใช้จ่ายให้แก่สถานประกอบการ เสร็จสิ้นการจัดทำกลไกและผลักดันการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก.