ภาพการประชุม (VGP) |
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งได้ย้ำว่า พรรคและรัฐถือการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนคือหน้าที่เร่งด่วนและต่อเนื่องในกระบวนการปรับปรุงกลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยม เป็นวิธีการสำคัญที่ช่วยผ่อนแรง เพิ่มผลผลิต อีกทั้งระดม จัดสรรและใช้พลังทุกแหล่งอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับการพัฒนา พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ว่า สถานประกอบการเวียดนามต้องเดินหน้าพัฒนานวัตกรรม เข้าร่วมการปฏิบัติก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์ รวมถึงกลไก กฎหมาย ปรับปรุงกลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยม สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ที่ถือวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นปัจจัยหลักเพื่อพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืนและชี้ชัดว่า
“หวังว่า สถานประกอบการจะส่งเสริมจิตใจแห่งความรักชาติและรับใช้ประชาชน ซึ่งเป็นเกียรติประวัติที่ดีงามและเป็นมรดกวัฒนธรรม เป็นที่พึ่งของประเทศเวียดนาม การมีรากเหง้าเดียวกันและการช่วยเหลือจุนเจือกันเพื่อร่วมกันพัฒนา สถานประกอบการและนักธุรกิจต้องส่งเสริมบทบาทในการมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ สร้างก้าวกระโดดหลังวิกฤตโควิด-19และผลกระทบจากพายุยางิในขณะที่เหลือเวลาแค่อีกกว่า 1 ปี เราจะย่างเข้าสู่ช่วงเวลารำลึกครบรอบ 100 ปีการนำของพรรคภายในปี 2030”
เศรษฐกิจภาคเอกชนกำลังมีส่วนร่วมคิดเป็นเกือบร้อยละ 45 ต่อจีดีพี กว่าร้อยละ 40 ของการเบิกจ่ายเงินลงทุน สร้างงานทำให้แก่แรงงานร้อยละ 85 มีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 35 และมูลค่านำเข้าร้อยละ 25 ของประเทศ.