ภาพการประชุม

ในการกล่าวปราศรัยเปิดการประชุม นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้เผยว่า นี่เป็นครั้งแรกในตลอดกว่า 50ปีที่การประชุมผู้นำอาเซียนถูกจัดขึ้นผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19และการพัฒนาของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19บวกกับปัญหาด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคและโลก รวมทั้งปฏิบัติการที่ขาดความรับผิดชอบและละเมิดกฎหมายสากลได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคต่างๆ รวมถึงอาเซียน ในสภาวการณ์ดังกล่าว ประเทศต่างๆควรส่งเสริมความสามัคคี ความร่วมมือและความรับผิดชอบต่อประชาคมโลก บทบาทและหน้าที่ของประเทศมหาอำนาจและองค์การพหุภาคีมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้เผยว่า หลังจากได้รับการก่อตั้งเป็นเวลา 5 ปี ประชาคมอาเซียนกำลังมีทั้งโอกาสและความท้าทายต่างๆเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงภูมิศาสตร์การเมืองและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในทั่วโลก โดยได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจและการเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิกเพื่อสร้างพลังที่เข้มแข็งและฟันฝ่าความท้าทายต่างๆ

“ผมมีความหวังว่า การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 36 จะเป็นการยืนยันให้เห็นถึงความสามัคคี ความมุ่งมั่นทางการเมืองและความตั้งใจในระดับสูงของประเทศสมาชิกในการฟันฝ่าอุปสรรคและพัฒนาก้าวรุดหน้าต่อไป โดยต้องควบคุมการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับการแก้ไขผลเสียหายจากการแพร่ระบาด การฟื้นฟูและกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจ พยายามปฏิบัติเป้าหมายความร่วมมือและการเชื่อมโยงอาเซียนภายในปี 2020 ดังนั้น ในการประชุมครั้งนี้ เราจะหารือเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูประชาคมอาเซียนหลังภาวะโควิด-19 การจัดตั้งคลังสำรองอุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉินของอาเซียนและการร่างกรอบกระบวนการเพื่อเป็นพื้นฐานในการรับมือการแพร่ระบาดในสถานการณ์ฉุกเฉินของอาเซียน เป็นต้น”.