ท่านฝ่าม บิ่นห์ มินห์ รองนายกฯและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม
( VOVworld )-เนื่องในโอกาสการก่อตั้งหน่วยงานการทูตเวียดนามครบรอบ ๗๐ ปี ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๘ สิงหาคม ท่านฝ่าม บิ่นห์ มินห์ รองนายกฯและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม โดยยืนยันถึงเข็มทิศทางการทูตของเวียดนามตั้งแต่เริ่มก่อตั้งประเทศมาจนถึงทุกวันนี้ว่า ใช้สิ่งที่แน่นอนเพื่อรับมือกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงโดยยึดเอกราช การเป็นตัวของตัวเองและผลประโยชน์ของชาติเหนือสิ่งอื่นใดเป็นหลัก ๗๐ ปีที่ผ่านมา หน่วยงานการทูตได้ใช้และสานต่อเข็มทิศนี้ในการปฏิบัตินโยบายทางการทูตอย่างมีความคิดสร้างสรรค์เพื่อปกป้องเอกราชของชาติ การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึกมากขึ้นและแก้ไขปัญหาความท้าทายที่เกิดขึ้นเพราะแนวโน้มแห่งยุคสมัย ท่านฝ่าม บิ่นห์ มินห์เห็นว่า ๗๐ ปีที่ผ่านมา หน่วยงานการทูตเวียดนามได้สร้างสันติภาพและเอกราชมาให้แก่ประเทศ อันเป็นการมีส่วนร่วมต่อการธำรงสันติภาพและความมีเสถียรภาพผ่านมาตรการสร้างสรรค์และขยายความสัมพันธ์กับนานาประเทศ ตลอดจนดำเนินตามแนวทางอิสระและเป็นตัวของตัวเองบนเวทีโลก ถือผลประโยชน์ของชาติเหนือสิ่งอื่นใด รู้จักใช้พลังอันเข้มแข็งของชาติกับของยุคสมัยอย่างดียิ่งเพื่อเรียกร้องให้นานาประเทศสนับสนุนเวียดนามในปัญหาของโลก ท่านฝ่าม บิ่นห์ มินห์ รองนายกฯย้ำว่า “ ต้องยืนยันจุดยืนของเวียดนามในปัญหาทะเลตะวันออกว่า เวียดนามมีอธิปไตยเหนือหมู่เกาะสองแห่งคือ เจื่องซาหรือสเปรตลีย์และหว่างซาหรือพาราเซล มีอธิปไตยเหนือเขตเศรษฐกิจจำเพาะในพื้นที่ ๑๒๐ ไมล์ทะเลที่ได้ระบุในกฎหมายสากล ปัญหาทะเลตะวันออกยังคงได้รับความสนใจจากนานาประเทศเพราะเป็นเส้นทางสายหลักระหว่างประเทศในภูมิภาค เป็นเส้นทางการค้าสายใหญ่ที่สินค้าของโลกร้อยละ ๕๐ ถูกขนส่งผ่าน ทะเลตะวันออกเกี่ยวข้องถึงความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือ ปัญหาหมู่เกาะเจื่องซาหรือสเปรตลี่ย์ที่มีการพิพาทและเวียดนามประกาศอธิปไตยเหนือหมู่เกาะนี้ และยังมีหลายประเทศกำลังบริหารเกาะด้วย เวียดนามมีแนวทางว่า ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประเทศหนึ่งจะแก้ไขในรูปแบบทวิภาคี แต่หากเกี่ยวข้องกับหลายประเทศต้องแก้ไขแบบพหุภาคี เวียดนามมีทัศนะว่า การแก้ไขปัญหาทุกอย่างต้องยึดกฎหมายสากลเป็นหลัก สิ่งที่แน่นอนคือ ต้องรักษาสันติภาพและความมีเสถียรภาพ ผลประโยชน์และอธิปไตย แต่การรับมือกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือต้องแสวงหามาตรการเพื่อขยายความร่วมมือในด้านที่ไม่มีการพิพาทและไม่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยเพื่อลดการปะทะทางทะเลให้เหลือน้อยที่สุด เวียดนามคัดค้านการกระทำที่เปลี่ยนแปลงสภาพในทะเลตะวันออกแต่เพียงฝ่ายเดียว ” ท่านฝ่าม บิ่นห์ มินห์ รองนายกฯและรัฐมนตรีต่างประเทศยืนยันว่า ภายหลัง ๗๐ ปี เวียดนามได้ยืนยันถึงบทบาทและสถานะของตนบนเวทีภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ประชาคมระหว่างประเทศได้ชื่นชมเวียดนามว่ามีส่วนร่วมต่อภารกิจของโลกตั้งแต่การเข้าร่วมมาจนถึงการเดินหน้าผสมผสานเข้ากับกระแสโลกตลอดจนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของโลก .