(VOVWorld)-จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาที่รุนแรงในตลอด๓สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานรับมือโรคระบาดฉุกเฉินของกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามได้จัดการประชุมฉุกเฉินกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกหรือดับเบิลยูเอชโอ  ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคระบาดสหรัฐหรือซีดีซีและองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติหรือ FAOเพื่อทำการตรวจสอบแผนการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาเข้าสู่เวียดนาม  ในการนี้  ตัวแทนของซีดีซีได้เผยว่า ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาตร์ที่ระบุว่า ไวรัสอีโบลาสามารถแพร่ระบาดจากคนสู่คนและจากคนสู่สัตว์ผ่านระบบทางเดินหายใจ  การที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐติดไวรัสอีโบลาในขณะที่ดูแลผู้ป่วยอาจมาจากการไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างถูกต้อง  ที่ประชุมได้เห็นพ้องกันว่า กระทรวงสาธารณสุขต้องทำการตรวจสอบแผนการป้องกันไม่ให้ไวรัสดังกล่าวระบาดเข้าสู่เวียดนาม  เฝ้าติดตามนักท่องเที่ยวจาก๖ประเทศแอฟริกาตะวันตกที่ประกอบด้วย คองโก กินี  ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน ไนจีเรียและเซเนกัลอย่างระมัดระวังตามด่านต่างๆและตามชุมชน  ส่วนตัวแทนของดับเบิลยูเอชโอเห็นว่า  จากความช่วยเหลือขององค์กรนี้และญี่ปุ่น  เวียดนามสามารถมีปฏิบัติการวิจัยไวรัสอีโบลาในประเทศได้             ส่วนวันเที่๑๔ตุลาคม ดับเบิลยูเอชโอได้เผยว่า อัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสอีโบลาในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ๗๐  ในการกล่าวปราศรัยกับสื่อมวลชน ณ เมืองเจนีวาประเทศสวิสเซอร์แลนด์  นาย  บรูซ เอลเวิร์ด ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ของดับเบิลยูเอชโอได้เผยว่า จากการแพร่ระบาดเชื้ออีโบลาอย่างรวดเร็ว จนทำให้ต้นเดือนธันวาคมนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวจะอยู่ที่๕๐๐๐-๑๐๐๐๐คนต่อสัปดาห์  ตามข้อมูลสถิติล่าสุดของดับเบิลยูเอชโอ จนถึงปัจจุบัน  ได้มีผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาเกือบ๙,๐๐๐รายและมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า ๔,๔๔๗ราย ปัจจุบัน ดับเบิลยูเอชโอกำลังพยายามกักตัวและรักษาผู้ติดเชื้อ./.