ภาพการเจรจา (VNA) |
ในการเจรจากับนาย มินต์ ส่วย รองประธานาธิบดีเมียนมาร์ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน รองนายกรัฐมนตรีเวืองดิ่งเหวะได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญและมีความประสงค์ที่จะกระชับความสัมพันธ์กับเมียนมาร์อย่างมีเสถียรภาพและยาวนานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ เพื่อสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาของอาเซียนและภูมิภาค
ในการพบปะต่างๆ ทั้ง2ฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะขยายการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ว่า จะแสวงหามาตรการเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองนายกรัฐมนตรีเวืองดิ่งเหวะได้เสนอให้รัฐบาลเมียนมาร์อำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการเวียดนามที่ลงทุนและประกอบธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ พร้อมทั้งผลักดันการออกใบอนุญาตการลงทุนของเวียดนามในเมียนมาร์ มีกลไกให้สิทธิพิเศษด้านที่ดินและภาษีแก่นักลงทุนเวียดนามและยืนยันว่า รัฐบาลเวียดนามเรียกร้องให้สถานประกอบการเวียดนามให้ความเคารพกฎหมายและมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อภารกิจการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเมียนมาร์
ทั้ง 2 ฝ่ายได้ย้ำถึงความสำคัญของการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน การประสานงานเพื่อแก้ไขความท้าทายด้านความมั่นคงในภูมิภาค รวมทั้งปัญหาทะเลตะวันออก โดยยืนยันสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกอย่างสันติบนพื้นฐานของการให้ความเคารพกฎหมายสากล อนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้กำลัง ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพและผลักดันการบรรลุซีโอซีโดยเร็ว ทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดในฟอรั่มทั้งในระดับภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะในกรอบของสหประชาชาติ อาเซียน ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและกลไกความร่วมมืออนุภูมิภาค เช่น ACMECS, CLMV, GMS, EWEC เป็นต้น
ในวันเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรีเวืองดิ่งเหวะได้เข้าเยี่ยมคารวะนาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมาร์.