ในการนี้ นาย จิ่งดิ่งหยุง รองนายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมสถานประกอบการทั้ง 2 ประเทศที่มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งในการพัฒนาความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐในตลอด 25 ปี โดยสหรัฐเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนชั้นนำของเวียดนาม มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นจาก 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 1994 เป็น 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 และย้ำว่า“นโยบายที่สำคัญของเวียดนามคือถือสหรัฐเป็นหุ้นส่วนชั้นนำและมีความประสงค์ว่า ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคีจะเป็นพื้นฐานและพลังขับเคลื่อนให้แก่ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ รัฐบาลเวียดนามให้คำมั่นว่า จะอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการต่างชาติ โดยเฉพาะสถานประกอบการสหรัฐที่เข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพในเวียดนาม”
ส่วนนาย Daniel J. Kritenbrink เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเวียดนามได้ยืนยันว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีเพื่อขยายความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าให้พัฒนาเข้าสู่เชิงลึกมากขึ้น พร้อมทั้งเผยว่า สถานประกอบการสหรัฐพร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิชาการและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การชำระเงินออนไลน์และการสื่อสารดิจิตอล
ที่ประชุมได้หารือถึงปัญหาสำคัญๆในการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม เช่น การผลักดันการลงทุนและนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน การขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิตอล มาตรการผลักดันการใช้ประโยชน์จากการค้าโลก.