ที่ประชุมได้สรุปความคืบหน้าในความร่วมมือระหว่างสามประเทศทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงการอำนวยความสะดวกให้แก่การค้า ย้ำถึงบทบาทสำคัญของความร่วมมือในซีเอลวีเพื่อธำรงสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค สนับสนุนกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศในกลุ่มรวมทั้งเป็นพลังขับเคลื่อนช่วยให้13จังหวัดในเขตชายแดนลดช่องว่างการพัฒนา
บรรดาผู้นำของประเทศซีเเอลวีได้ยืนยันคำมั่นผลักดันความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสามประเทศ มีส่วนร่วมสร้างสรรค์เศรษฐกิจซีเอลวีที่ผสมผสาน มั่นคงและรุ่งเรือง เป็นส่วนหนึ่งที่ขาดมิได้ในวิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียน2025 ที่ประชุมได้ย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องผลักดันความเชื่อมโยงระหว่างสามเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การเข้าร่วมห่วงโซ่คุณค่าโลกและการรับมือกับความท้าทายต่างๆ บนพื้นฐานข้อเสนอของนายกฯเวียดนามเหงวียนซวนฟุก ที่ประชุมได้เห็นพ้องกับการขยายความร่วมมือซีเอลวีอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อมุ่งสู่การคลอบคลุมทั้งสามประเทศมิใช่แค่จำกัดใน13จังหวัดในเเนวชายแดนเท่านั้น โดยที่ประชุมได้อนุมัติแผนการเชื่อมโยงสามเศรษฐกิจซีเเอลวีถึงปี2030
ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกฯเหงวียนซวนฟุกได้ยืนยันว่า “นายกฯทั้งสามประเทศได้แสดงความตั้งใจที่จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนทั้งสามประเทศ ยกระดับความร่วมมือที่สำคัญเพื่อเปิดระยะแห่งการพัฒนาใหม่และขยายความร่วมมือในทุกด้าน นี่คือการพัฒนาที่สำคัญไม่เพียงแต่ของทั้งสามประเทศหากของทั้งภูมิภาคอาเซียน ให้ความสนใจอันดับต้นๆต่อการค้าและการลงทุน”
เกี่ยวกับแผนการเชื่อมโยงถึงปี2030 นายกฯเหงวียนซวนฟุกได้เผยว่านี่คือประเด็นสำคัญโดยก่อนอื่นคือต้องเชื่อมโยงด้านกลไกระเบียบการและผลักดันการประชาสัมพันธ์นโยบายและกฎหมาย เชื่อมโยงระบบโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข วัฒนธรรมและกีฬา เป็นต้นเพื่อค้ำประกันการพัฒนาที่มั่นคงของซีเเอลวี โอกาสนี้นายกฯทั้งสามประเทศได้ลงนามแถลงการณ์ร่วมซีเเอลวีและเห็นพ้องที่จะจัดประชุมซีเเอลวี11 ณ ประเทศลาว.