รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับอัจฉริยะระดับ 4 อนาคตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับในเวียดนาม

Vinh Phong - VOV5
Chia sẻ
(VOVWORLD) -ในสภาวการณ์การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 นักวิทยาศาสตร์ชาวเวียดนามได้ปรับตัวและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์และเทคนิคต่างๆ ในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม ยกตัวอย่าง เช่น บริษัทเฝื่องหว่างแซง A&A ซึ่งเป็นสมาชิกของ Phenikaa Group ได้วิจัย ผลิตและเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับอัจฉริยะระดับ 4 คันแรกในเวียดนามที่มีลักษณะโดดเด่นต่างๆ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือเป็นการวิจัยและพัฒนาโดยทีมงานชาวเวียดนามเอง
รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับอัจฉริยะระดับ 4 อนาคตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับในเวียดนาม - ảnh 1รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับอัจฉริยะของ Phenikaa ( baogiaothong.vn)
 
 

นี่เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับระดับ 4 จากทั้งหมด 5 ระดับตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรยานยนต์หรือ SAE นาย เลแองเซิน ผู้อำนวยการของ Phenikaa-X ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมการผลิตรถยนต์ดังกล่าวเผยว่า Phenikaa-X หวังว่า รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับอัจฉริยะ Made-in-Vietnam ระดับ 4 คันแรกนี้จะช่วยกำหนดแนวทางให้แก่อุตสาหกรรมเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับของเวียดนามในอนาคต โดยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีต่างๆ จะได้รับการผลิตในเวียดนามตามมาตรฐานสากลและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้

“รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับถูกพัฒนาและเปิดตัวเมื่อปี 2020 และเริ่มทดลองใช้ในบางพื้นที่โดยมีการทดสอบ เช่น การเปลี่ยนเลนและการหลบหลีกสิ่งกีดขวาง”

รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับของบริษัท Phenikaa เป็นรถต้นแบบ รุ่นแรกที่ผลิตเสร็จภายในเวลาเพียง 6 เดือนโดยทีมงานของโครงการคือกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญและวิศวกรของ Phenikaa Group ที่มาจากศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัย Phenikaa และบริษัทหุ้นส่วน Phenikaa-X ซึ่งสามารถเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ มีระบบจดจำสัญญาณ จดจำยานพาหนะและคนเดินเท้า มีระบบระบุตำแหน่งที่มีความแม่นยำสูงโดยใช้แผนที่ 3 มิติ สามารถวิเคราะห์การเคลื่อนที่ของยานพาหนะโดยรอบและสามารถเข้าสู่พื้นที่จอดรถโดยอัตโนมัติ เป็นต้น นาย เลแองเซินเผยต่อไปว่า

“ในรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ เราติดตั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ เช่น เทคโนโลยีการทำแผนที่ ซึ่งเป็นแผนที่ดิจิทัลที่มีคุณภาพสูง โดยใช้เทคโนโลยีหลัก 2 อย่าง ได้แก่ เทคโนโลยีภาพถ่ายโดยใช้โดรนในการถ่ายภาพ การสร้างภาพ 3 มิติ และมีพิกัดติดอยู่กับจุดต่างๆ ในรูป เทคโนโลยีที่สองคือการใช้เทคโนโลยี Lidar ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ที่ใช้เลเซอร์เพื่อวัดระยะทาง เพื่อช่วยให้การทำแผนที่มีความแม่นยำสูง เทคโนโลยีต่อไปคือปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ใช้เซ็นเซอร์เพื่อแยกแยะว่า สิ่งเหล่านี้คืออาคาร  ต้นไม้ คนเดินถนนหรือยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ เป็นต้น นอกจากนี้ เรายังใช้ AI ในการกำหนดเส้นทางเพื่อช่วยให้รถสามารถเคลื่อนที่ ค้นหาเส้นทาง หรือวิเคราะห์สภาพการจราจรได้โดยอัตโนมัติ”

รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับอัจฉริยะระดับ 4 อนาคตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับในเวียดนาม - ảnh 2รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับของ Phenikaa ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้โดยใช้ระบบอัจฉริยะที่โดดเด่นต่างๆ (toquoc.vn)

รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับของ Phenikaa ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้โดยใช้ระบบอัจฉริยะที่โดดเด่นต่างๆ ดังนั้น นี่เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ไร้คนขับที่ใช้ระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะที่มีไม่กี่คันในโลกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า โดยเฉพาะไม่มีพวงมาลัยเพื่อบังคับ โดยผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับรถผ่านซอฟต์แวร์ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ นาย เลแองเซิน เผยต่อไปว่า

“ ปัจจุบันนี้ เราต้องซื้อชิ้นส่วนอะไหล่เพื่อประกอบรถจากต่างประเทศ เช่น เซ็นเซอร์ซื้อจากสหรัฐและญี่ปุ่น ส่วนซอฟต์แวร์ควบคุมและ แชสซี ยาง อุปกรณ์ตกแต่งภายในและภายนอก ผลิตโดยวิศวกรชาวเวียดนามเอง ทางบริษัทฯ กำลังปรับปรุงรถ ประเมินผลการทำงานและทำการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เพื่อค้ำประกันความปลอดภัยในการให้บริการของรถยนต์ไร้คนขับ บริษัท Phenikaa ได้ทำการทดสอบรถที่ Ecopark อำเภอวันยาง จังหวัดฮึงเอียนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งก็สามารถตอบสนองข้อกำหนดในขั้นพื้นฐานได้ และได้รับการสนับสนุนจากคนในชุมชน  นาย เหงียนซวนฟุ๊ก ซีอีโอของบริษัท Ecotech  บริษัทในเครือ Ecopark ให้ข้อสังเกตว่า

“ ในโครงการพัฒนาตัวเมืองอัจฉริยะของ Ecotech ที่กำลังปฎิบัติใน Ecopark รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับของ Phenikaa ได้รับการอนุมัติแล้ว จากการทดสอบดังกล่าว เราเห็นว่า รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับนี้ปลอดภัย นำประสบการณ์ใหม่มาให้แก่ผู้ใช้และลดการใช้คนขับ โดยรถสามารถวิ่งได้เองในเวลากลางคืนประมาณ 21-24 ชั่วโมงและสามารถวิ่งไปยังจุดชาร์จแบตได้เอง”

การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับถือเป็นความสำเร็จของบริษัท Phenikaa ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนี้ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้แก่เทคโนโลยีการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าในเขตท่องเที่ยว สนามกอล์ฟ เขตตัวเมือง สนามบินและตามโรงงานต่างๆ.

Feedback