บริษัท MEET MORE จำกัดได้รับใบสั่งซื้อจนถึงปลายปีนี้

ในขณะที่สถานประกอบการหลายแห่งประสบความยากลำบากในการได้รับคำสั่งซื้อเพื่อประคองบริษัทให้อยู่รอด บริษัท MEET MORE จำกัดได้รับใบสั่งซื้อจนถึงปลายปีนี้ โดยในแต่ละเดือน ทางบริษัทส่งออกกาแฟสำเร็จรูปรสผลไม้ไปยังอิตาลีจำนวน 5 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยเฉพาะมีสถานประกอบการอิตาลีได้ขอรับสิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่ายรายเดียวในการจำหน่ายสินค้าของ MEET MORE ในตลาดยุโรป

การส่งออกกาแฟสำเร็จรูปไปยังตลาดอียูเป็นเรื่องที่ยากมากเนื่องจากอียูกำหนดมาตรฐานอย่างเข้มงวดต่อส่วนประกอบของนมในกาแฟ ดังนั้น ทางบริษัทจึงคิดค้นผลัติภัณฑ์กาแฟรสผลไม้ ซึ่งเป็นการนำกาแฟมาผสมกับผลไม้ต่างๆ เช่น มะพร้าว ลูกยอ มิ้นท์ และ มะม่วง ทำให้ไม่ต้องใช้นม ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์มีความแตกต่างกับของบริษัทอื่นๆ นาย เหงียนหงอกหลวน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของบริษัทฯ เผยว่า กาแฟรสผลไม้ของบริษัทฯได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภคยุโรปเพราะใช้ผลไม้สดของเวียดนามและได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร "ผมไม่คิดว่าเราจะพัฒนาได้อย่างรวดเร็วแบบนี้ การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้เปลี่ยนแปลงความนิยมของผู้บริโภคอียูอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้พวกเขามักจะซื้อผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากประเทศจีนแต่เมื่อเห็นผลิตภัณฑ์ของเวียดนามที่ใช้วัตถุดิบคือผลไม้สดที่อร่อยและมีคุณภาพ พวกเขาจึงเปลี่ยนมาซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา ในเวลาข้างหน้าทางบริษัทขยายขอบเขตการผลิตและเพิ่มคุณภาพให้ดีที่สุดเพราะว่านี่คือผลิตภัณฑ์ที่มีจุดเด่นไม่เหมือนใคร"

ในด้านการส่งออกเครื่องเฟอร์นิเจอร์ สถานประกอบการบางแห่งในนครโฮจิมินห์ก็สามารถผลักดันการส่งออกไปยังตลาดอียูได้ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทผลิตการค้าและการส่งออกเทียนมิงห์จำกัดก็ได้รับใบสั่งซื้อจากตลาดอียูถึงปลายเดือนเมษายนปี 2021 ซึ่งเพื่อได้รับใบสั่งซื้อในระยะยาวแบบนี้โดยเฉพาะในสภาวการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทางบริษัทได้เน้นเจาะตลาดระดับกลางผ่านช่องทางการค้าอิเล็กทรอนิกส์และเลือกผลิตภัณฑ์เครื่องเฟอร์นิเจอร์สนามและชุดโต๊ะเก้าอี้หวายเทียมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นายเจิ่นลามเซิน ผู้อำนวยการของบริษัทฯ เผยว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาดเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์แฮนเมด ซึ่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในด้านราคาและความสวยงาม เพราะแรงงานเวียดนามมีฝีมือดี ตอนนี้ทางบริษัทไม่ต้องหาใบสั่งซื้ออีกแค่พยายามทำการผลิตให้ทันเวลาตามใบสั่งซื้อที่มีเท่านั้น

ส่วนนาย จูเตี๊ยนหยุง ผู้บริหารสมาคมสถานประกอบการโฮจิมินห์เผยว่า จากความพยายามในไตรมาสที่ 4 สถานประกอบการที่ส่งออกเครื่องเฟอร์นิเจอร์และสินค้าเกษตรแปรรูปก็ได้รับใบสั่งซื้อมากขึ้นในช่วงปลายปี โดยเฉพาะอัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมการแปรรูปไม้ได้แตะระดับเลขสองหลัก ซึ่งทางสมาคมกำลังผลักดันโครงการส่งเสริมการค้าดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับสถานประกอบการเพื่อผลักดันการส่งออกในเวลาที่จะถึง โดยเฉพาะการส่งออกไปยังตลาดยุโรปเพื่อใช้โอกาสจากข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรปหรืออีวีเอฟทีเอได้อย่างเต็มที่ “ทางการนครโฮจิมินห์ได้จัดตั้งคณะปฏิบัติงานและสภาพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อช่วยแก้ไขอุปสรรคในด้านระเบียบราชการ ช่วยประสานงานและสนับสนุนสถานประกอบการในการผลักดันการส่งออก”

การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้สร้างอุปสรรคและความท้าทายเป็นอย่างมากต่อสถานประกอบการ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีสถานประกอบการหลายแห่งที่สามารถหาแนวทางผลิตสินค้าที่มีจุดเด่นไม่เหมือนใครเพื่อสร้างคุณค่าและยืนยันเครื่องหมายการค้าในตลาดส่งออก อันจะเป็นการเปิดโอกาสการพัฒนาที่เข้มแข็งและยั่งยืนในระยะต่อไป.