หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งเวียดนาม – ไทย ความร่วมมือไว้เนื้อเชื่อใจ ความสัมพันธ์ใกล้ชิดยาวนาน มุ่งสู่อนาคต

นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม
Chia sẻ
(VOVWORLD) - สารของนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในโอกาสฉลองครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเวียดนาม-ไทย
หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งเวียดนาม – ไทย ความร่วมมือไว้เนื้อเชื่อใจ ความสัมพันธ์ใกล้ชิดยาวนาน มุ่งสู่อนาคต - ảnh 1

ในโอกาสการครบรอบ 45 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามกับราชอาณาจักรไทย ซึ่งเวียนมาบรรจบในวันที่ 6 สิงหาคม 2564 นี้ เมื่อย้อนกลับไปมองการพัฒนาความสัมพันธ์ของสองประเทศ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จของความร่วมมือร่วมใจอันน่าภาคภูมิใจของสองประเทศ

ตลอดระยะเวลา 45 ปีของการก่อตั้งและการพัฒนา โดยการอนุรักษ์ และการหล่อเลี้ยงโดยผู้นำและประชาชนรุ่นต่อรุ่นของทั้งสองประเทศ มิตรภาพอันยาวนานระหว่างเวียดนามและไทยได้กลายเป็นทรัพย์สินอันล้ำค่าของทั้งสองชนชาติ ด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ใกล้ชิดและความคล้ายคลึงกันมากมายในด้านวัฒนธรรม สังคม และผู้คน ตลอดจนการเป็นสมาชิกที่แข็งขันของครอบครัวอาเซียน เวียดนามจึงให้ความสำคัญและปรารถนาที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือกับไทยลึกซึ้งและใกล้ชิดยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่เวียดนามได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ (พ.ศ. 2556) และหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ที่เข้มแข็ง (พ.ศ. 2558) นี่เป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น นำความสัมพันธ์ความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศมาสู่หน้าใหม่โดยมีขอบเขตและเนื้อหาความร่วมมือที่ครอบคลุมและกว้างลึกทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี นับแต่นั้นมา โอกาสและศักยภาพของความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศก็บรรลุผลสำเร็จในทุกด้าน ไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการเติบโตด้านการค้าและการลงทุนที่รวดเร็วและสูงที่สุดในเวียดนาม โดยมูลค่าการค้าทวิภาคีเติบโตที่อัตราเฉลี่ยร้อยละ 7.3 ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้สูงถึงเดือบ 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมูลค่าการลงทุนสะสมเพิ่มขึ้นร้อยละ 65จาก 7,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีพ.ศ. 2558 เป็น 12,780 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2563

ท่ามกลางบริบทที่โลกและภูมิภาคกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ทั้งสองประเทศให้ความห่วงใย แบ่งปัน และสนับสนุนซึ่งกันและกันด้วยความรักฉันพี่น้องกับความสูญหาย ความสูญเสียที่เกิดจากโควิด – 19 อย่างสม่ำเสมอ ผู้นำของทั้งสองประเทศได้มีการตกลงที่จะแบ่งปันประสบการณ์ในการป้องกันและควบคุมโรคต่อไป ปรับปรุงความสามารถในการปรับตัว ให้ความร่วมมือในการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการผลิตวัคซีน และการเข้าถึงแหล่งวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนความร่วมมือในรูปแบบอื่น ๆ ด้านวัคซีนป้องกัน โควิด – 19 เพื่อมีส่วนส่งเสริมการเปิดประเทศโดยเร็ว อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนทางการค้าและวัฒนธรรมสำหรับธุรกิจและประชาชนระหว่างสองประเทศและในภูมิภาค การเสริมสร้างความร่วมมือ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน การสนับสนุนซึ่งกันและกันและการแบ่งปันระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนโดยทั่วไปและโดยเฉพาะเวียดนาม-ไทย เป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ของการพัฒนาเพื่อปรับปรุงความสามารถในการปรับตัวในระยะยาวและความสามารถในการควบคุมและขับไล่โรคระบาดไปสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

ทั้งสองประเทศยังทำงานอย่างใกล้ชิดในองค์กรและเวทีระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาเซียนและสหประชาชาติ และร่วมแสดงความเห็นร่วมกันในประเด็นด้านความมั่นคงและประเด็นเชิงกลยุทธ์ระดับภูมิภาคที่มีความกังวลร่วมกัน นอกจากนั้นทั้งสองประเทศยังเป็นสมาชิกของข้อตกลงการค้าเสรีต่าง ๆ รวมถึงข้อตกลง RCEP เวียดนามขอบคุณการสนับสนุนอันมีค่าของไทยเสมอมาในเวาลาเวียดนามดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ โดยล่าสุด คือบทบาทประธานอาเซียน พ.ศ. 2563 และในฐานะสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี พ.ศ. 2563-2564

ท่ามกลางบริบทที่โลกและภูมิภาค โดยเฉพาะการจะเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า บนรากฐานที่มั่นคงที่ผู้นำและประชาชนของทั้งสองประเทศได้ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อปลูกฝังมาตลอด 45 ปีที่ผ่านมา หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ที่เข้มแข็งเวียดนาม-ไทยจะพัฒนาอย่างลึกซึ้งและกว้างขวางยิ่งขึ้นในทุก ๆ ด้านอย่างต่อเนื่องทั้งในปัจจุบันและระหว่างช่วงพักฟื้นหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อผลประโยชน์สำหรับสองชาติ ในขณะเดียวกันมีส่วนทำให้เกิดผลอย่างมีประสิทธิผลในการสร้างอาเซียนที่เป็นเอกภาพและพึ่งพาตนเองได้ พัฒนาอย่างทั่วถึงและส่งเสริมบทบาทศูนย์กลางและกฎหมายระหว่างประเทศ จากนั้นมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาในภูมิภาคและระดับโลก ความเป็นจริงของความสัมพันธ์ 45 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าความยากลำบาก ความท้าทาย และวิกฤตต่าง ๆ จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น สามัคคีมากขึ้น ผูกพันมากขึ้น และร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุกมิติ

สุดท้ายขอให้ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งและมิตรภาพระหว่างประชาชนของเวียดนามและไทยจะใกล้ชิดและแน่นแฟ้นตลอดไป และก้าวร่วมกันสู่อนาคตที่สดใสและเจริญรุ่งเรือง./.

 (Đặc san Việt Nam - Thái Lan: Chặng đường hợp tác 45 năm, 8/2021)

คำติชม