ดร. หวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (Photo qdnd.vn) |
นี่คือกิจกรรมประจำปีที่ใหญ่ที่สุดในกรอบโครงการทั่วไปของหนังสือพิมพ์ฟอรั่มสถานประกอบการเพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพของนักศึกษา ซึ่งผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ แผนสตาร์ทอัพต่างๆได้กลายเป็นความจริงและมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศ
ในกรอบของงานเฟสติวัลสตาร์ทอัพ 2021 มีการจัดกิจกรรมสำคัญ 2 กิจกรรม คือการมอบรางวัลให้แก่สถานประกอบการสตาร์ทอัพดีเด่นในปี 2020และการเปิดโครงการสตาร์ทอัพแห่งชาติ 2021 นอกจากนี้ จะมีการจัดกิจกรรมนอกรอบต่างๆ เช่น การจัดแสดงผลงานของโครงการสตาร์ทอัพต่างๆ การเรียกเงินทุนให้แก่โครงการที่มีศักยภาพสูง การพบปะสังสรรค์กับผู้ที่ให้คำปรึกษา นักลงทุนและองค์กรที่ผลักดันและสนับสนุนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ เป็นต้น ดร. หวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามย้ำว่า “กิจกรรมสตาร์อัพของหนังสือพิมพ์ฟอรั่มสถานประกอบการจัดที่ขึ้นทุกๆปีได้สร้างเครือข่ายและระบบนิเวศสตาร์อัพอย่างกว้างขวางใน 30 จังหวัดและนครทั่วประเทศ โดยมีการเข้าร่วมของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยทั่วประเทศ 150 แห่ง โดยในการประกวดทำธุรกิจสตาร์ทอัพแห่งชาติปี 2020 มีนักศึกษาจาก 40 มหาวิทยาลัยเข้าร่วม ส่วนในปี 2021 นี้ ทางวีซีซีไอจะประสานงานกับโครงการพัฒนาของสหประชาชาติในการสร้างศูนย์นานาชาติที่เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อปฏิบัติรูปแบบการประกอบธุรกิจปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติและโรคระบาด ดังนั้นในการประกวดปีนี้ หวังว่า เราจะพบความคิดริเริ่มต่างๆเกี่ยวกับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน”
ในการประกวดปี 2020 ได้มีการมอบรางวัลเกี่ยวกับท้องถิ่นที่เดินหน้าในการสร้างสรรค์ระบบนิเวศนวัตกรรมแห่งชาติให้แก่นครไฮฟอง จังหวัดบิ่งเยืองและจังหวัดกว๋างนาม ส่วนรางวัลสำหรับมหาวิทยาลัยที่เดินหน้าในด้านนี้มอบให้แก่มหาวิทยาลัยการค้าต่างประเทศฮานอย มหาวิทยาลัยเว้และมหาวิทยาลัยโปลิเทคนิคนครโฮจิมินห์ ส่วนรางวัล Mentor of year 2020 มอบให้แก่นาย เจืองแทงหุ้ง ผู้อำนวยการ FiNNO Group รองประธานสภาสตาร์ทอัพนวัตกรรมแห่งชาติย่านภาคกลาง ส่วนประเภทโครงการดีเด่นปี 2020 มี 3 รางวัล คือรางวัลที่ 1 หนึ่งรางวัล รางวัลที่ 2 สองรางวัลและรางวัลที่ 3 สามรางวัลมอบให้แก่ 6 โครงการ โดยรางวัลที่ 1 มอบให้แก่โครงการใช้สาหร่ายสไปรูลิน่าเลี้ยงกุ้งและปรับปรุงสภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัยเหงียนเติ๊ดแถ่ง นางสาว เหงียนหงอกเจิน หัวหน้ากลุ่มนักศึกษาที่วิจัยโครงการดังกล่าวเผยว่า"เมื่อก่อนนี้ สาหร่ายสไปรูลิน่าเป็นอาหารสำหรับมนุษย์ จึงมีราคาสูง ไม่เหมาะกับการเลี้ยงกุ้ง แต่พวกเราได้ทำการวิจัยเพื่อลดต้นทุนให้แก่เกษตรกรเลี้ยงกุ้ง โดยผสมสาหร่ายสไปรูลิน่ากับอาหารกุ้งในอัตราร้อยละ 3 ซึ่งช่วยให้กุ้งรอดชีวิตสูงกว่าร้อยละ 85 โดย 1 กิโลกรัมได้กุ้งประมาณ 45 ตัว สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรถึง 2 พันล้านด่งต่อเฮกตาร์"
มอบรางวัลที่ 1 ให้แก่โครงการสตาร์ทอัพดีเด่นของปี 2020 |
ในการดึงดูดเงินลงทุนให้แก่โครงการสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูง 10 โครงการที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งล้วนแต่เป็นโครงการสตาร์ทอัพที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและค้ำประกันการพัฒนาอย่างยั่งยืน นี่คือโอกาสให้สตาร์ทอัพแสวงหาการสนับสนุนจากนักลงทุน ศูนย์บ่มเพาะและองค์กรเพื่อแปรโครงการของตนให้กลายเป็นความจริง คุณ เหงียนฟุ๊กวิงห์ หัวหน้าโครงการบริษัทหุ้นส่วนผลิตและการค้าไม้มะพร้าว CCF ของมหาวิทยาลัยป่าไม้ ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับรางวัลที่ 2 เสนอว่า "ก้าวกระโดดในโครงการของพวกเราคือแหล่งวัตถุดิบที่เป็นต้นมะพร้าว ซึ่งหาได้ง่ายและการแปรรูปก็ทำได้ไม่ยาก โดยเราสามารถทำได้ตามความต้องการของลูกค้า จุดเด่นของไม้มะพร้าวคือแข็งแรงทนทาน ไม่ดูดน้ำ มีสีธรรมชาติ ไม่บวม ทนต่อทุกสภาพอากาศซึ่งช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดการใช้ไม้จากป่า โดยเฉพาะตลาดเวียดนามมีความต้องการสูงในการใช้ไม้ชนิดนี้เพื่อทำพื้นไม้ เป้าหมายของโครงการคือ การสร้างรายได้กว่า 1 หมื่นล้านด่งต่อปีหรือกำไรประมาณ 3 พันล้านด่งต่อไป โดยลูกค้าคือคนที่อาศัยตามคอนโด เขตตากอากาศและในอนาคตจะมุ่งเจาะตลาดต่างประเทศ"
สำหรับสภาที่ปรึกษาในการทำธุรกิจสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมแห่งชาติมีสมาชิก 16 คน ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ พร้อมสนับสนุนและเดินพร้อมกับนักศึกษาในกระบวนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ นับตั้งแต่ปี 2021 การประกวดที่จัดโดยหนังสือพิมพ์ฟอรั่มสถานประกอบการจะกลายเป็นการประกวดสตาร์ทอัพระดับประเทศของเวียดนาม โดยในปี 2021 นี้ ผู้ชนะจะได้สิทธิ์เข้าร่วมการประกวดสตาร์ทอัพโลกปี 2022 ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์.