สถานประกอบการเวียดนามในยุโรปเป็นช่องทางนำสินค้าเวียดนามเจาะตลาดยุโรป

Anh Huyen
Chia sẻ
(VOVWORLD) -ตามข้อมูลสถิติ ปัจจุบัน มีสถานประกอบการเวียดนามประมาณ 3,500 แห่งที่ประกอบธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งพลังที่สำคัญในการช่วยประชาสัมพันธ์และนำสินค้าไปจำหน่ายในต่างประเทศ ปัจจุบันนี้ เวียดนามได้เข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อียูหรืออีวีเอฟทีเอ สถานประกอบการที่กำลังประกอบธุรกิจในต่างประเทศจึงกลายเป็นช่องทางนำสินค้าเวียดนามเจาะตลาดยุโรป โดยเฉพาะบรรดาประเทศสมาชิกอียู
 
 
สถานประกอบการเวียดนามในยุโรปเป็นช่องทางนำสินค้าเวียดนามเจาะตลาดยุโรป - ảnh 1นายฝุ่งกงหยุง หัวหน้าคณะกรรมการแห่งชาติเกี่ยวกับชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศประจำนครโฮจิมินห (qdnd.vn)

สหภาพยุโรปหรืออียูคือตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากร 500 ล้านคน มี GDP ประมาณ 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี นอกจากนี้อียูยังเป็นหุ้นส่วนสำคัญอันดับที่ 2 ของเวียดนามและเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับสินค้าส่งออกของเวียดนาม

ตั้งแต่ที่ข้อตกลงการค้าเสรีเอฟทีเอมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2020 สถานประกอบการเวียดนามที่ประกอบธุรกิจในยุโรปได้พยายามเดินพร้อมกับสถานประกอบการภายในประเทศแสวงหาตลาดใหม่ๆใช้โอกาสจากข้อตกลงอีวีเอฟทีเอเพื่อผลักดันการส่งออกไปยังอียู โดยเฉพาะสินค้าการเกษตรและสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นสินค้าที่เป็นจุดแข็งของเวียดนามในการแข่งขัน

ในเวลาที่ผ่านมา สถานประกอบการเวียดนามที่ประกอบธุรกิจในต่างประเทศได้ประสานกับสถานประกอบการภายในประเทศเพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุน ขยายการประกอบธุรกิจในตลาดยุโรปและตลาดระหว่างประเทศ ซึ่งสถานประกอบการเวียดนามที่กำลังประกอบธุรกิจในยุโรปถือเป็นช่องทางส่งเสริมความใกล้ชิดและมีความเข้าใจอย่างกว้างลึกเกี่ยวกับตลาด ภาษาและกฎหมายของประเทศยุโรป นาย เหงียนหงอกเจีย อุปนายกสมาคมสถานประกอบการเวียดนามประจำสหพันธรัฐรัสเซียแสดงความคิดเห็นว่า

"สินค้าเวียดนามนับวันสามารถยืนยันคุณภาพ และได้รับความนิยมจากผู้บริโภครัสเซียมากขึ้น นี่คือผลจากข้อตกลงเอฟทีเอ แต่อย่างไรก็ตาม สถานประกอบการเวียดนามควรเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานสินค้าอย่างกว้างลึกมากขึ้น ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการจำหน่ายถึงมือผู้บริโภค เพราะถ้าหากมีขีดความสามารถในการแข่งขัน เครื่องหมายการค้าต่างๆของเวียดนามจะสามารถส่งออกไปยังทั่วโลก"

สิ่งที่น่ายินดีอีกอย่างหนึ่งสำหรับเวียดนามนับตั้งแต่ที่ข้อตกลงอีวีเอฟทีเอมีผลบังคับใช้ ปัจจุบันนี้เวียดนามมีชมรมสถานประกอบการที่ประกอบธุรกิจในยุโรปจำนวนมากโดยเฉพาะมีศูนย์การค้าเวียดนามที่มีสถานประกอบการด้านการนำเข้าส่งออก การขายส่ง การให้บริการนับพันแห่ง ซึ่งสถานประกอบการเหล่านี้เป็นสถานประกอบการอียูที่มีประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจ มีความเข้าใจเกี่ยวกับตลาด กฎหมายและภาษาของประเทศที่ตนกำลังอาศัยอยู่และเป็นสะพานเชื่อมให้แก่สถานประกอบการเวียดนามและอียู เพื่อผลักดันการส่งออกไปยังตลาดอียู นาย หว่างซวนบิ่งห์ นายกสมาคมสถานประกอบการเวียดนามประจำโปแลนด์ได้แสดงความคิดเห็นว่า

"สถานประกอบการภายในประเทศควรปรับปรุงสินค้าให้ตอบสนองตามมาตรฐานของอียูและสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้า เป็นฝ่ายรุกในการเจาะตลาดอียู ในขณะที่ประเทศอื่นๆยังไม่ลงนามข้อตกลงเอฟทีเอกับอียู นอกจากนี้ต้องมีแผนความร่วมมือในระยะยาวกับสถานประกอบการเวียดนามที่กำลังประกอบธุรกิจในยุโรปเพื่อแสวงหาตลาด การทำตลาด การประชาสัมพันธ์และจำหน่ายสินค้าในอียู สร้างสรรค์รูปแบบโลจิสติกส์ สนับสนุนการส่งออกอย่างมีประสิทธิภาพ"

ชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศกำลังมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเพื่อพัฒนาการประกอบธุรกิจและจำหน่ายสินค้าภายในประเทศ  ควบคู่กับการพัฒนาของศูนย์การค้าใหญ่ๆชาวเวียดนามหลายคนยังสร้างระบบจำหน่ายสินค้าเวียดนามในท้องถิ่นอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการในต่างประเทศกับสถานประกอบการภายในประเทศ ซึ่งปัจจุบันนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การอัพเดทข้อมูล  สำนักงานที่เป็นตัวแทนการทูตของเวียดนามยังสนับสนุนการเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการภายในประเทศกับสถานประกอบการเวียดนามที่กำลังประกอบธุรกิจในต่างประเทศหรือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเวียดนามที่กำลังประกอบธุรกิจในอียู นายฝุ่งกงหยุง หัวหน้าคณะกรรมการแห่งชาติเกี่ยวกับชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศประจำนครโฮจิมินหแสดงความคิดเห็นว่า

" พวกเราจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสถานประกอบการภายในประเทศกับสถานประกอบการเวียดนามในต่างประเทศ  แน่นอนว่าการส่งออกสินค้าการเกษตรและสัตว์น้ำของเวียดนามจะได้มีโอกาสเข้าถึงตลาดอียูโดยเฉพาะเมื่อข้อตกลง อีวีเอฟทีเอมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงก็จะช่วยให้เศรษฐกิจของนครโฮจิมินห์นับวันดีขึ้น"

จากการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ สินค้าหลายรายการของเวียดนามสามารถเจาะตลาดยุโรปได้มากขึ้น ซึ่งได้รับความนิยมและช่วยประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมเวียดนามเป็นอย่างดี จากโอกาสของอีวีเอฟทีเอ สถานประกอบการเวียดนามที่ประกอบธุรกิจในยุโรปกำลังวางแผนและแนวทางการทำธุรกิจเพื่อพัฒนาและมีส่วนร่วมต่อการนำเข้าและส่งออกเวียดนาม-อียูมากขึ้น ควบบคู่กับการผลักดันการส่งออกสินค้าอียูมายังตลาดเวียดนาม สถานประกอบการเวียดนามในต่างประเทศกำลังพยายามสร้างความเชื่อมโยงเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์และเป็นช่องทางช่วยให้สินค้าเวียดนามเข้าถึงตลาดอียู.

คำติชม