 Biluxury หนึ่งในแบรนด์แฟชั่น Made in Vietnam |
ในหลายปีมานี้ แนวโน้มเสื้อผ้าแฟชั่นผู้ชาย สไตล์หนุ่มเท่ แมทช์ง่ายสมาร์ทมากกำลังมาแรงในเวียดนามโดยมีการปรากฏตัวของแบรนด์ต่างๆ เช่น Biluxury ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีสาขา 100 แห่งทั่วประเทศ ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่น Made in Vietnam สำหรับผู้ชายที่มีการออกแบบสินค้าแฟชั่นใหม่ๆ มีการวางแผนมาร์เกตติ้งที่รอบด้าน โดยเฉพาะการจัดงาน fashion show ขนาดใหญ่ที่มีคนในวงการแฟชั่นและดาราเข้าร่วมจำนวนมาก นาย เลซวนตุ่ง ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Biluxury กล่าวว่า
“ในเดือนกรกฎาคมนี้จะครบรอบ 7 ปีวันก่อนตั้งบริษัท ซึ่งเราได้ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2021 นี้จะเปิดสาขาอีก 300 แห่งทั่วประเทศ แต่ถึงขณะนี้ เราต้องระงับแผนการดังกล่าวเพื่อปรับปรุงแผนการผลิต เพราะว่า การผลิตในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ถึงแม้ได้ผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ก็ต้องพยายามแก้ไขปัญหาสินค้าค้างสต็อก ส่วนแผนการผลิตในฤดูหนาวก็ต้องปรับลดปริมาณลงครึ่งหนึ่ง"
การแพร่ระบาดของโรควิด -19 ได้ส่งผลให้สถานประกอบการหลายแห่งต้องปรับเปลี่ยนวิธีการประกอบธุรกิจ พร้อมทั้งลดค่าใช้จ่ายเพื่อจะได้มีรายได้และสามารถฟันฝ่าอุปสรรค นางเลิมถิเกี่ยวแอวง ผู้อำนวยการบริษัท Twitter Beans Coffee กล่าวว่า ทางบริษัทฯได้เตรียมพร้อมในการใช้ช่องทางออนไลน์ก่อนที่โควิด - 19 แพร่ระบาด ดังนั้น ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาด ทางบริษัทฯ จึงได้กำหนด 3 เป้าหมายเท่านั้น คือ ให้กำลังใจและสร้างการเชื่อมโยงระหว่างแรงงานในขณะที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม เน้นการทำงานที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆในช่วงเวลาที่ไม่ต้องปฏิบัติการเว้นระยะห่างทางสังคม ส่วนนาง เหงียนถิแอ๊งหงอก ผู้อำนวยการบริษัทการท่องเที่ยวและขนส่งดึ๊กวิงห์จำกัด กล่าวว่า “นอกจากมีความหลงใหลและความกระตือรือร้นที่เป็นลักษณะของคนรุ่นใหม่แล้ว พวกเรายังมีความอดทน มีความมุ่งมั่นฟันฝ่าอุปสรรค พร้อมทั้งปฏิบัติมาตรการต่างๆ เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าที่มีศักยภาพ”
 คุณตุ่งและคุณเลยุง (ซ้าย) ในการหารือภายใต้หัวข้อ "สถานประกอบการใช้พลังทุกแหล่งเพื่อฟันฝ่าอุปสรรค" (dantri) |
ในช่วงที่ยากลำบากนี้ ความคิดสร้างสรรค์และความคล่องตัวจะช่วยให้สถานประกอบการสามารถคงอยู่ได้ ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่พลังแห่งวัยเยาว์ได้รับการส่งเสริม สำหรับการระดมเงินทุนท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นาย ตุ่ง เผยต่อไปว่า “ในด้านการเงิน เราได้เจรจากับเจ้าของสถานที่เพื่อขอเลื่อนเวลาจ่ายค่าเช่า สองคือให้พนักงานหมุนเวียนกันหยุดงาน สามคือ เปลี่ยนจากการขายออฟไลน์มาเป็นการขายออนไลน์เพื่อระบายสินค้า และหาทางให้มีเงินสดหมุนเวียน นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาการค้าอิเล็กทรอนิกส์และดึงดูดเงินทุน ถึงขณะนี้ ผมยังเชื่อมั่นว่า เราจะสามารถฟันฝ่าวิกฤตนี้ได้ โดยจะลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้เพื่อให้บริษัทฯ คงอยู่และพัฒนาต่อไป”
ส่วนนาง เลยุง ผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วนการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร Dgroup แสดงความคิดเห็นว่า ในช่วงนี้ สถานประกอบการควรใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศ “จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ถ้าหากเราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้เป็นอย่างดี การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 จะอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการในการประกอบธุรกิจ การแสวงหาลูกค้า การเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการรับสมัครแรงงาน ส่วนสโมสรสถานประกอบการจะเป็นอีกช่องทาเพื่องช่วยให้สถานประกอบการสามารถพบปะและเชื่อมโยงระหว่างสมาชิก”
การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้สร้างความท้าทายต่างๆแต่ก็มีสตาร์ทอัพหลายแห่งสามารถฟันฝ่าความท้าทายเหล่านี้ไปได้ ซึ่งวิกฤตโควิด -19 ได้สร้างทั้งจุดเปลี่ยนและทั้งโอกาสถ้าหากสถานประกอบการขนาดเล็กรู้จักรับและเปลี่ยนแปลงใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตลาด.