เขตท่องเที่ยวชุมชน “ Hello Mu Cang Chai”

เขตท่องเที่ยวชุมชน “ Hello Mu Cang Chai” ตั้งอยู่บนเขตดอยที่ล้อมรอบด้วยนาขั้นบันไดของชาวม้งในตำบล ลาป๊านเติ๋น อำเภอ หมู่กังฉาย จังหวัดเอียนบ๊าย ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศชื่นชอบมาก และนี่เป็นผลจากความมานะพยายามของสามีภรรยาชาวม้งรุ่นใหม่ คุณอย่างอาเย และ คุณหว่างถิหลี่

นาย หว่างอาเย เกิดเมื่อปี 1989 เรียนจบมหาวิทยาลัยและมีงานทำที่มั่นคงในบริษัทโทรคมนาคมแห่งหนึ่ง แต่ถึงปี 2017 เมื่อเห็นศักยภาพการท่องเที่ยวในบ้านเกิด เขาได้ตัดสินใจกลับหมู่บ้านทำธุรกิจการท่องเที่ยวด้วยมือเปล่า เขาบอกว่า ถึงแม้ประสบความยากลำบากต่างๆ แต่ตัวเขาและภรรยาก็ไม่เคยย่อท้อ “สมาชิกในครอบครัวและชาวบ้านไม่สนับสนุนเรา โดยบอกว่า ไม่เคยมีใครทำธุรกิจแบบนี้ ถ้าเราทำก็คงไม่สำเร็จ ซึ่งเรารู้สึกกดดันมาก”

แต่โชคดีที่นายอาเยได้รับกำลังใจและการสนับสนุนจากภรรยา ไม่ว่าจะเป็นการเลือกพื้นที่สร้างบ้านพัก การกู้เงิน วิธีการให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว การปรุงอาหาร การสื่อสารกับนักท่องเที่ยวและการจัดทัวร์ เป็นต้น ซึ่งจากการเรียนรู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ หลังจากนั้นไม่นาน โฮมสเตย์ Hello Mu Cang Chai ก็มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยในปีแรกฯ มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการประมาณ 500 คน ถึงแม้การแพร่ะบาดของโรคโควิด -19 ได้ส่งผลให้นักท่องเที่ยวลดลงแต่โฮมสเตย์ Hello Mu Cang Chai ยังคงมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

เมื่อการทำธุรกิจเริ่มมีเสถียรภาพ นาย อาเย ก็ดูแลเรื่องการบำรุงรักษาและปรับปรุงภูมิทัศน์ให้แก่โฮมสเตย์และเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง ส่วนภรรยาของเขาก็ไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่เมืองซาปา จังหวัดหล่าวกายเพื่อเก็บประสบการณ์ “ผมเรียนภาษาอังกฤษเองด้วยการอ่านหนังสือและอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยว ตอนนี้สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้แล้วจึงสามารถให้บริการได้ดีขึ้น”

“ บางครั้งก็รู้สึกว่าการเป็นพนักงานเสิร์ฟยากมากและอยากกลับบ้าน แต่ดิฉันก็ยังตั้งใจทำงานนี้เพื่อสั่งสมประสบการณ์”

นาย อาเย และภรรยาสอนภาษาอังกฤษฟรีให้แก่เด็กๆ

ภายใต้สโลแกน “ ไปก็ชอบ มาก็หลงไหล” โฮมสเตย์ Hello Mu Cang Chai ของครอบครัวนาย อาเย ได้กลายเป็นที่พักที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว เมื่อมาที่นี่ นักท่องเที่ยวไม่เพียงแต่ได้พักผ่อนเท่านั้น หากยังได้เข้าร่วมกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ เช่น ทำอาหารกับชาวท้องถิ่น ไปจับปลาในลำธาร ปลูกข้าวนาขั้นบันได สอนภาษาอังกฤษให้แก่เด็กๆในหมู่บ้าน เป็นต้น นาง เหงียนห่งแอง นักท่องเที่ยวจากกรุงฮานอยกล่าวว่า “มาที่นี่ กลุ่มของเราได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชาวท้องถิ่น นับเป็นครั้งแรกที่เราได้ปลูกข้าวในนา ได้จับปลาในลำธารแล้วทำปลาย่าง จนได้ศึกษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาวบ้านเพื่อสนับสนุนการเรียนที่มหาวิทยาลัย”

การทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวไม่เพียงแต่เพื่อเพิ่มรายได้เท่านั้น หากนายอาเยและภรรยายังอยากช่วยให้ชาวบ้านตระหนักได้ดีเกี่ยวกับศักยภาพในด้านนี้แล้วปฏิบัติตามเพื่อสร้างฐานะที่มั่นคงและสร้างสรรค์ภูมิลำเนาให้เจริญรุ่งเรือง จากความคิดนั้น กลุ่มผู้ทำโฮมสเตย์ที่นาย อาเย เป็นหัวหน้าได้ถ่ายทอดประสบการณ์และช่วยเหลือครอบครัวอื่นๆในหมู่บ้านพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน และถึงแม้งานยุ่งมาก แต่นาย อาเย และภรรยายังไปสอนภาษาอังกฤษฟรีให้แก่เด็กๆในตำบลเพื่อช่วยให้เด็กๆกลายเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่น เด็กหญิง ลี้ถิไก นักเรียนในชั้นเรียนภาษาอังกฤษพิเศษนี้กล่าวว่า “หนูชอบเรียนภาษาอังกฤษเพราะต้องการให้ชาวต่างชาติมีความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมของหมู่บ้านเรามากขึ้น”