การสร้างสรรค์สตาร์ทอัพและพัฒนานวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

Ngoc Anh
Chia sẻ
(VOVWORLD) - การสร้างสตาร์ทอัพและพัฒนานวัตกรรมกำลังเป็นช่องทางสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนาของหลายประเทศ รวมทั้งเวียดนาม ซึ่งการสร้างสตาร์ทอัพและพัฒนานวัตกรรมมีเป้าหมายสุดท้ายคือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยอาศัย 3 เสาหลักคือเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม

 
การสร้างสรรค์สตาร์ทอัพและพัฒนานวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน - ảnh 1ภาพการทำงานของบริษัทสตาร์ทอัพที่ UP Co-working Space (VGP) 

นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้ตัดสินใจเลือกปี2016เป็นปีสตาร์ทอัพแห่งชาติ โดยได้ยืนยันว่า การสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างมีความคิดสร้างสรรค์คือพลังขับเคลื่อนเชิงก้าวกระโดดในรูปแบบการขยายตัวต่างๆ กระแสธุรกิจสตาร์ทอัพได้พัฒนาอย่างรวดเร็วในทั่วประเทศและครอบคลุมในทุกด้าน นอกจากใช้ประโยชน์จากตลาดภายในประเทศ ก้าวพัฒนาที่สำคัญของสถานประกอบการสตาร์ทอัพในปี2016 คือ มีโครงการสตาร์ทอัพระดับโลกหลายโครงการเพื่อมุ่งสู่การเจาะตลาดโลก

ร่างโครงการ “สนับสนุนระบบนิเวศสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมแห่งชาติถึงปี 2020 หรือ ร่างโครงการ844 ที่นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติเมื่อปี2016 ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของรัฐบาลในการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมเพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้แก่การส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งและพัฒนาสถานประกอบการที่มีศักยภาพในการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญา เทคโนโลยีและรูปแบบการประกอบธุรกิจใหม่ นาย ฝ่ามห่งก๊วด อธิบดีกรมพัฒนาตลาดและสถานประกอบการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ย้ำว่า“ในการปฏิบัติร่างโครงการ844 พวกเราตระหนักได้ดีว่า สตาร์ทอัพและนวัตกรรมเป็นสิ่งที่สำคัญ เมื่อก่อนนี้ พวกเราคิดว่า ธุรกิจสตาร์ทอัพและนวัตกรรมมีความผูกพันกับบริษัทและมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ รวมทั้งสถาบันวิจัยต่างๆเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้ขยายขอบเขตและมีความผูกพันกับประชาชนทุกภาคส่วน ปัจจุบัน มี 52 จังหวัดจากทั้งหมด 63 จังหวัดและนครที่มีโครงการ844 ระดับท้องถิ่น มีการจัดตั้งสตาร์ทอัพในเชิงนวัตกรรม 3,000แห่งในช่วงปี 2015 - 2019 และดึงดูดเงินลงทุนจำนวนมาก โดยเมื่อปี 2015 มีเงินลงทุน 136ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้เพิ่มขึ้นเป็น 890ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี2018 และลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 851ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2019 แต่ยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับระดับเอเชีย”

การสร้างสรรค์สตาร์ทอัพและพัฒนานวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน - ảnh 2นาย ฝ่ามห่งก๊วด อธิบดีกรมพัฒนาตลาดและสถานประกอบการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (enternews.vn)

เพื่อสนับสนุนระบบนิเวศสตาร์ทอัพนวัตกรรมแห่งชาติ สภาแห่งชาติได้ประกาศใช้กฎหมายการถ่ายทอดเทคโนโลยี กฎหมายการสนับสนุนสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ส่วนรัฐบาลได้ประกาศใช้นโยบายใหม่ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการสตาร์ทอัพต่างๆ จนถึงปัจจุบัน ในระบบนิเวศสตาร์ทอัพมีการเข้าร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน เช่น นักศึกษา เกษตรกรและสตรี รวมทั้งเครือบริษัท กองทุน Venture capital และศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศ ศ.ดร.เจิ่นถิเวินฮวา รองอธิการบดีมหาวิทยลัยเศรษฐศาสตร์แห่งชาติกรุงฮานอยได้เผยว่า“ตั้งแต่ปี 2016จนถึงปัจจุบัน การสร้างสตาร์ทอัพและนวัตกรรมถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญในยุทธสาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนาม ซึ่งถูกระบุในแผนการปฏิบัติของรัฐบาลและโครงการต่างๆของกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆ โครงการร่วมมือระหว่างประเทศ โครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพเพื่อดึงดูดการลงทุนและโครงการวิจัยทางวิชาการของมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยร่างโครงการ “สนับสนุนระบบนิเวศสตาร์ทอัพนวัตกรรมแห่งชาติกำลังสร้างแรงจูงใจให้แก่ประชาชนและมีส่วนร่วมที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในเวลาที่ผ่านมา”

ภาครัฐได้อำนวยความสะดวกให้แก่การดึงดูดการลงทุนในโครงการสตาร์ทอัพและนวัตกรรม ส่งเสริมการจัดตั้งบริษัทและกองทุน Venture capital เพื่อสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพและนวัตกรรม ส่วนสถานประกอบการสตาร์ทอัพที่มีความคิดสร้างสรรค์นับวันแสดงให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญในด้านเศรษฐกิจ รองศ.ดร.เจืองถินามทั้ง ผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจสตาร์ทอัพและความคิดสร้างสรรค์ทางสังคมสังกัดมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งชาติได้เผยว่า“ความได้เปรียบของรูปแบบสถานประกอบการทางสังคมในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนคือสถานประกอบการที่มีการขยายตัวทั้งรายได้ กำไร ตลาด อีกทั้งมอบอำนาจและสร้างงานทำให้แก่กลุ่มเสี่ยงในสังคม ปรับปรุงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและเป็นแนวทางการปฏิบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นสถานประกอบการที่เชื่อมโยงและสนับสนุนรัฐบาลและท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาสังคมในท้องถิ่นและเป็นแนวโน้มการพัฒนาของหลายประเทศ ดังนั้น จำเป็นต้องจัดตั้งสมาคมสถานประกอบการทางสังคม”

ระบบนิเวศสตาร์ทอัพนด้านวัตกรรมของเวียดนามกำลังมีการพัฒนาอย่างเข้มแข็งในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก โดยผลการจัดอันดับระบบนิเวศสตาร์ทอัพประจำปี 2020ของ StartupBlink ปรากฎว่า เวียดนามเลื่อนขึ้น13 อันดับมาอยู่อันดับที่ 59 ของโลก ก่อนหน้านั้น เมื่อปี2019 ระบบนิเวศสตาร์ทอัพของเวียดนามได้เลื่อนจากอันดับที่ 6 มาอยู่อันดับที่3 ในภูมิภาคอาเซียน รองจากสิงคโปร์และอินโดนีเซีย ในเวลาข้างหน้า ระบบนิเวศสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมของเวียดนามจะขยายการเชื่อมโยงทั้งในระดับภูมิภาค ประเทศและโลก.

คำติชม