 การเปิดตัว Au Lac AI Alliance (vneconomy.vn) |
Au Lac AI Alliance ได้มีการประกาศตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ณ กรุงฮานอย ด้วยการเข้าร่วมของกลุ่มบริษัทชั้นนำและองค์กรธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีกว่า 20 แห่ง เช่น MobiFone, VNPT, FPT, CMC, AI For Vietnam, AI Hay เป็นต้น นาย เจืองยาบิ่ง ประธานเครือบริษัทเทคโนโลยี FPT ผู้ริเริ่มก่อตั้งสหพันธ์ฯ เผยว่า นี่ไม่ใช่เพียงแค่จุดเริ่มต้น แต่ยังเป็นการเรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าร่วม เนื่องจากโลกกำลังเข้าสู่ยุค AI โดยเวียดนามต้องตามกระแสนี้ให้ได้
“ปัจจุบัน AI เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สร้างฐานะของประเทศบนแผนที่โลก ดังนั้น ถ้าหากเวียดนามอยากจะพัฒนาเทียบเท่ากับกลุ่มประเทศมหาอำนาจดังที่ประธานโฮจิมินห์ได้กล่าวไว้ AI ของพวกเราต้องไปถึงระดับสากล โดยจะมีการประยุกต์ใช้ในทุกด้านของชีวิตทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศ ดังนั้น ทางสหพันธ์ ฯ จึงจะพัฒนาโมเดลเฉพาะของคนเวียดนาม เพื่อสามารถนำไปใช้ในทุกสาขาที่เวียดนาม”
ในสภาวการณ์ที่การพัฒนา AI ในเวียดนามยังคงเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ต่าง ๆ การกำเนิด Au Lac AI Alliance ถือเป็นคำตอบในการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมีการมุ่งเน้นใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ การวิจัยและการพัฒนา การสร้างมาตรฐานและนโยบายด้าน AI รวมถึงการฝึกอบรม ซึ่งสมาชิกทุกคนต่างร่วมมือกันสร้างสรรค์ชุมชน AI ที่เปิดกว้างและโปร่งใส โดยทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์สาธารณะได้อย่างอิสระ รวมถึงการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงพาณิชย์ อีกทั้งมีการจัดกิจกรรม โครงการฝึกอบรม และการแข่งขันต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้ องค์ความรู้ และทักษะเกี่ยวกับ AI ให้กับชุมชน
ด้วยเป้าหมายร่วมคือมีส่วนช่วยในการยืนยันสถานะของประเทศในยุคดิจิทัล นาย หลือแถ่งลอง ประธานกรรมการบริหารบริษัท MISA Joint Stock Company ได้ให้คำมั่นที่จะส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับดาต้า โดยเฉพาะในด้านการเงินและบัญชีให้กับ AI Alliance
“ผมคิดว่า การเปิดตัวของ AI Alliance กับรูปแบบการสนับสนุนทั้งเรื่องแรงและเรื่องเงินนั้น จะช่วยให้พวกเราสามารถสร้างรากฐานเศรษฐกิจ AI ให้กับสังคม ซึ่งถ้าหากพวกเราเป็นเจ้าของเทคโนโลยีได้ก็หมายความว่า พวกเราจะสามารถควบคุมเศรษฐกิจในเวลาข้างหน้า โดยไม่ต้องพึ่งพิงใคร ๆ พร้อมค้ำประกันความมั่นคง เศรษฐกิจ และ AI ยิ่งไปกว่านั้น แพลตฟอร์มไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะแข่งขันกัน แต่เป็นสิ่งที่ควรแบ่งปันให้ทุกบริษัทและประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึง ซึ่งถือเป็นโอกาสให้พวกเรานำ AI ไปสู่ทุกองค์กรธุรกิจ ทุกครอบครัวและประชาชนทุกคน”
จากการร่วมแรงร่วมใจเพื่อสร้างสรรค์แพลตฟอร์มเทคโนโลยี AI ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศชาติอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งมีการแพร่หลายในชุมชนเทคโนโลยีของเวียดนาม ทาง Zalo ให้คำมั่นที่จะสร้างระบบประเมินความสามารถทางด้านภาษาเวียดนามพร้อมชุดคำถามกว่า 10,000 ข้อ ในขณะที่บริษัท FPT จะเปิดแพลตฟอร์มเทคโนโลยีหลักทั้งหมด ตั้งแต่โมเดลภาษาขนาดใหญ่หรือ LLM ไปจนถึง Cloud AI เพื่อให้สมาชิกทุกคนพัฒนาร่วมกัน พร้อมการลงทุนใน AI แบบเปิด เพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจขนาดเล็ก สถาบันวิจัย และโรงเรียนหลายแห่ง สามารถเข้าถึงข้อมูลและเครื่องมือต่าง ๆ ได้
 นาย เจืองยาบิ่ง ประธานเครือบริษัทเทคโนโลยี FPT (vneconomy.vn) |
นาย เจืองยาบิ่ง ประธานเครือบริษัทเทคโนโลยี FPT เผยว่า หลังจากที่เวียดนามได้กำหนด “สี่เสาหลัก” ในการพัฒนาประเทศ ประกอบด้วย มติที่ 57 ส่งเสริมวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ มติที่ 59 เกี่ยวกับการบูรณาการระหว่างประเทศในเชิงรุก มติที่ 68 เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน และมติที่ 66 เกี่ยวกับการปฏิรูประบบทางการเมืองอย่างครอบคลุม การกำเนิดของ AI Alliance เป็นการยืนยันถึงความตั้งใจที่ว่า “ถึงแม้พวกเรามาที่หลัง แต่ถ้าจับมือไปด้วยกัน เวียดนามก็สามารถไปได้เร็วขึ้น หรืออาจนำหน้าก็เป็นได้”
“ถ้าหากเราไม่สามารถสร้าง AI ที่ทรงพลัง แล้วจะดำเนิน 4 กลยุทธ์หลักนี้ได้หรือไม่ จะบริหารประเทศให้ทันสมัยที่สุดได้ไหม และทำยังไงเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศให้ดีที่สุด พร้อมก้าวไปข้างหน้าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สินทรัพย์ในการส่งออกของพวกเราคือมันสมอง ดังนั้น ความท้าทายทั้งหมดเหล่านี้ล้วนอยู่ในประเด็นที่สำคัญมาก ๆ คือ ปัญญาประดิษฐ์”
ทั้งนี้ AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่ยังเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ในการกำหนดแนวทางการบริหารและรับใช้ประชาชน ซึ่งคนเวียดนามมีความรู้ความสามารถ รวมถึงชุมชนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศก็มีความปรารถนาที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาปิตุภูมิ ดังนั้น เวียดนามมีความพร้อมในเรื่องทรัพยากรเพื่อสร้างสรรค์ระบบนิเวศนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์และ AI คือโอกาสทองให้เวียดนามก้าวสู่กลุ่มประเทศเทคโนโลยีชั้นนำในอนาคต.