อนุสรณ์สถานแห่งชัยชนะ ฮานอย-เดียนเบียนฟูกลางเวหา

Bùi Hằng-VOV5
Chia sẻ
(VOVworld)-เวลาผ่านไปแล้ว40ปีแต่ความทรงจำเกี่ยวกับช่วงวันคืนแห่งเดือนธันวาคมปี1972ที่ชาวฮานอยทั้งปวงต้องทำการต่อสู้กับการทิ้งระเบิดกรุงฮานอยแบบปูพรมของเครื่องบินบี52ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ซึ่งร่อยรอยหลักฐานแห่งความดุเดือดของสงคราม ความสูญเสียและปวดร้าวของชาวฮานอย ...กำลังถูกเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์การป้องกันอากาศยานและกองทัพอากาศฮานอย

(VOVworld)-เวลาผ่านไปแล้ว40ปีแต่ความทรงจำเกี่ยวกับช่วงวันคืนแห่งเดือนธันวาคมปี1972ที่ชาวฮานอยทั้งปวงต้องทำการต่อสู้กับการทิ้งระเบิดกรุงฮานอยแบบปูพรมของเครื่องบินบี52ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ซึ่งร่อยรอยหลักฐานแห่งความดุเดือดของสงคราม ความสูญเสียและปวดร้าวของชาวฮานอย พลังความสามัคคีและความวีรกล้าหาญของกองทัพและประชาชนฮานอยในการสู้รบเป็นเวลา12วันคืนจนสามารถชนะศัตรูที่มีกำลังเข้มแข็งกว่าหลายเท่านั้นกำลังถูกเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์การป้องกันอากาศยานและกองทัพอากาศฮานอย
อนุสรณ์สถานแห่งชัยชนะ ฮานอย-เดียนเบียนฟูกลางเวหา - ảnh 1
ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ สิ่งของวัตถุและเอกสารข้อมูลต่างๆล้วนแต่สะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศการต่อสู้อย่างดุเดือดในยุทธนาการณ์เดียนเบียนฟูทางอากาศเมื่อปี1972 

ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ สิ่งของวัตถุและเอกสารข้อมูลต่างๆล้วนแต่สะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศการต่อสู้อย่างดุเดือดในยุทธนาการณ์เดียนเบียนฟูทางอากาศเมื่อปี1972 ซึ่งเมื่อกล่าวถึงสิ่งของที่มีค่าแห่งประวัติศาสตร์เหล่านี้พันเอก เหงวียนหิวดาก ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์การป้องกันอากาศยานและกองทัพอากาศฮานอยเผยว่า ที่นี่ไม่เพียงแต่มีการจัดแสดงทั้งเอกสารข้อมูลและวัตถุสิ่งของพร้อมภาพบันทึกเกี่ยวกับเหตุการณ์12วันคืนปี1972เท่านั้นหากยังรวมถึงสิ่งของต่างๆของกองกำลังป้องกันอากาศยานในการต่อสู้กับเครื่องบินบี52ที่สมรภูมิ หวิงลิงช่วงปี1966-1967ไปจนถึงวันที่14มกราคมปี1973 การต่อสู้นั้นได้ร่วมสร้างชัยชนะแห่งกระบวนการปลดปล่อยประชาชาติ ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องยอมลงนามข้อตกลงปารีสตามเงื่อนไขต่างๆที่เวียดนามเสนอ 

ภาพขาวดำแต่ละภาพในพิพิธภัณฑ์ที่บันทึกช่วงวันเวลาที่ฮานอยถูกโจมตีอย่างดุเดือดและถูกทำลายอย่างย่อยยับได้ทำให้ทุกคนที่มาเยี่ยมชมรู้สึกถึงความสูญเสียปวดร้าวและความแข็งแกร่งของทหารและประชาชนฮานอยไม่ว่าจะเป็นภาพสถานีรถไฟ ห่างก๋อ โดนระเบิด ภาพการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและแพทย์พยาบาลที่โรงพยาบาลแบกมายหลังการทิ้งระเบิดระลอกแรกของเครื่องบินบี52  บรรยากาศที่เร่งรีบในโรงงานผลิตกระสุนปืนใหญ่และจรวดป้องกันอากาศยานเพื่อสนองให้แก่หน่วยต่อสู้ทางอากาศ เป็นต้น ซึ่งทุกอย่างได้สะท้อนให้เห็นถึงความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและจิตใจแห่งความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเป็นชัยชนะ ฮานอย-เดียนเบียนฟูกลางเวหา ผู้กำกับ ฝามเวียดตุ่ง เจ้าของภาพถ่ายเครื่องบินบี52ตกในคืนวันที่27ธันวาคม1972 ซึ่งในตอนนั้นเขาทำงานอยู่ที่แผนกโทรทัศน์แห่งสถานีวิทยุเวียดนามได้เล่าถึงความรู้สึกเมื่ออยู่ในเหตุการณ์วันนั้นว่า ในช่วงสงครามแห่งความเป็นความตายนั้น นักข่าวอย่างพวกเราก็ยังยึดหลักปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ท่ามกลางห่ากระสุนปืนและระเบิดที่อัตรายที่สุดโดยไม่มีไครรู้สึกหวาดกลัวแม้จะรู้ดีว่าตัวเองอาจจะเสียชีวิตได้

อนุสรณ์สถานแห่งชัยชนะ ฮานอย-เดียนเบียนฟูกลางเวหา - ảnh 2
ซากเครื่องบินบี52

นอกจากภาพถ่ายที่บันทึกประวัติศาสตร์แห่งสงครามทำลายล้างที่ดุเดือดแล้ว ในพิพิธภัณฑ์ยังมีสิ่งของวัตถุต่างๆที่เป็นการยืนยันว่า ภายใต้การนำที่ปรีชาสามารถของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม กองบัญชาการกองทัพอากาศและความเด็ดเดี่ยวของชาวฮานอยที่สามารถชนะการโจมตีทางอากาศด้วยเครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดในตอนนั้นคือบี52ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น ซากครื่องบิน Mig21- B52 ที่ถูกปืนต่อสู้อากาศยานยิงตก ระบบเรดาร์ที่สามารถระบุตำแหน่งของเครื่องบินบี52ได้ล่วงหน้าก่อน35นาทีเพื่อเตรียมอพยพประชาชนและเตรียมพร้อมต่อสู้  ความทรงจำในอดีตแม้จะเป็นความปวดร้าวและสูญเสียที่ยิ่งใหญ่แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและความมุ่งมั่นเพื่อสานต่อเกียรติประวัติและก้าวรุดหน้าต่อไป คุณเตริ่นยวีแอง นักศึกษามหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์เผยว่า วันนี้ผมรู้สึกซาบซึ้งมากเมื่อได้ชมการแสดงสิ่งของวัตถุต่างๆและศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์12วันคืนแห่งการต่อสู้ที่วีรอาจหาญของกองทัพและประชาชนฮานอย เห็นถึงการพัฒนาที่เข้มแข็งของกองทัพเวียดนาม ความสามัคคีที่เหนี่ยวแน่นระหว่างทหารและประชาชน ภาพต่างๆในที่นี่ก็มีความหลากหลายโดยเฉพาะผมประทับใจกับรอยยิ้มอันเบิกบานแห่งความมุ่งมั่นในชัยชนะของทหารลุงโฮ

ความดุเดือดของสงครามทำลายล้างภาคเหนือโดยเฉพาะการต่อสู้ใน12วันคืนของชาวฮานอยได้กลายเป็นอดีตแล้ว แต่จากข้อมูลวัตถุและภาพถ่ายที่กำลังจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ ผู้ชมจะสามารถเข้าใจได้ดีเกี่ยวกับบทบาทที่ยิ่งใหญ่ของชัยชนะฮานอย-เดียนเบียนฟูกลางเวหา เพราะชัยชนะนี้คือสัญลักษณ์แห่งความสามัคคี ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของกองทัพและประชาชนฮานอย ตลอดจนสติปัญญา ความมุ่งมั่นและศิลปะการทหารที่ยอดเยี่ยมของชาติเวียดนาม./.

คำติชม