สิ่งของวัตถุที่จัดแสดงในนิทรรศการ

นิทรรศการนี้จัดตาม 3 โซน  สะท้อนความปรารถนาในการรวมชาติ แนะนำแนวทางและนโยบายที่ชาญฉลาดของประธานโฮจิมินห์และพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามที่เป็นผู้นำในการต่อสู้จนสามารถเอาชนะผู้รุกราน นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงการสนับสนุนของแนวหลังในภาคเหนือต่อแนวหน้าในภาคใต้ และการสนับสนุนจากประชาชนทั่วโลกที่มีต่อสงครามต่อต้านอเมริกาเพื่อกู้ชาติของประชาชนเวียดนาม ผ่านนิทรรศการนี้ ผู้ชมสามารถสัมผัสบรรยากาศแห่งความฮึกเหิมและความสุขของประชาชนในวันรวมชาติได้อย่างชัดเจน รองศาสตราจารย์ ดร. บุ่ย หว่าย เซิน สมาชิกคณะกรรมาธิการวัฒนธรรมและการศึกษาแห่งสภาแห่งชาติเวียดนาม สมัยที่ 15 กล่าวว่า

“นิทรรศการนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการปลูกฝังความรักชาติผ่านความทรงจำในประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษ และบทเรียนอันล้ำค่าที่เราได้รับ”

เมื่อได้ชมภาพถ่ายวินาทีประวัติศาสตร์ที่รถถังหมายเลข 390 พุ่งชนประตูทำเนียบเอกภาพ ( Dinh doc lap) นายโง ซี้ เหงวียน ทหารผ่านศึก พลปืนประจำรถถัง 390 เล่าว่า

“ยุทธนาการโฮจิมินห์ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่และรวดเร็วมาก ทางด้านทิศตะวันออก กองพลที่ 2 ของเรามีรถถังสองคันที่มาถึงคือรถถังหมายเลข 843 และ 390 พลขับคือผู้กองบุ่ย กว๋าง เถิน และผู้ดูแลการเมือง หวู ดัง ตว่าน ตามแผนที่ของนายบุ่ย วัน ตุง รถถังหมายเลข 390 ของเราได้ผ่านสะพาน ถิ เหง่ ไปพุ่งชนประตูทำเนียบเอกภาพจนล้ม ภาพนั้นแสดงถึงพลังความเข้มแข็งของกองทัพประชาชนเวียดนาม และความปรารถนานำสันติภาพมาให้แก่ประชาชาติ หลังจากที่ต้องสละเลือดเนื้อในตลอดกว่า 21 ปี เราก็ได้ประสบความสำเร็จ”

แข็กรับเชิญไปชมนิทรรศการ

เมื่อเดินทางมาชมนิทรรศการ นาย โห่ เวียด เหวียด ห่า จากกรุงฮานอย กล่าวว่า

“เรามีความซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากที่ได้มาชมนิทรรศการในช่วงเวลารำลึกครบรอบ 50 ปีการปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพ ตัวผมเองก็เติบโตในช่วงเวลาที่เวียดนามทำสงครามต่อต้านอเมริกาเพื่อกู้ชาติ แล้วก็เข้าร่วมการต่อสู้ทั้งในภาคเหนือและภาคใต้เพื่อปกป้องปิตุภูมิ จึงมีความเข้าใจเป็นอย่างมากถึงคุณค่าของการต่อสู้นี้ ผมเห็นชาวฮานอยยืนรอบๆ สระคืนดาบเพื่อฟังข่าวการต่อสู้ เมื่อได้ยินข่าวว่า จังหวัดไหนได้รับการปลดปล่อย พวกเขาก็ปรบมือ ส่วนผมมีความสุขมาก ส่วนในวันนี้ มาที่นี่ผม อยากดูภาพต่างๆเพื่อหาคำตอบให้ตนเองว่า ทำไมพรรคและประธานโฮจิมินห์สามารถรณรงค์ให้ประชาชนทั่วประเทศร่วมกันปฎิบัติภารกิจการปลดปล่อยประชาชาติได้”

นิทรรศการฯ ไม่เพียงแต่สร้างความซาบซึ้งใจให้กับทหารผ่านศึกและประชาชนที่เคยผ่านสงครามเท่านั้น แต่ยังสร้างความประทับใจให้กับเยาวชน

นิทรรศการ “ผืนแผ่นดินเดียวกัน” ไม่เพียงแต่สร้างความซาบซึ้งใจให้กับทหารผ่านศึกและประชาชนที่เคยผ่านสงครามเท่านั้น แต่ยังสร้างความประทับใจให้กับเยาวชน โดยเฉพาะภาพธงแดงดาวเหลืองที่โบกสะบัดบนเพดานและโมเดลจำลองรถถังที่บุกเข้าทำเนียบเอกภาพและทำการปักธงบนหลังคาทำเนียบ

“เมื่อได้เข้าชมนิทรรศการนี้ ผมรู้สึกตื้นตันใจและภูมิใจในชัยชนะแห่งประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษเมื่อ 50 ปีก่อน ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของประเทศ เราตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบของเราต่ออนาคตของชาติ โดยต้องพยายามเรียนรู้และฝึกฝนหล่อหลอมตนเองอย่างสุดความสามารถเพื่อสร้างสรรค์ประเทศให้เจริญรุ่งเรือง สมกับการเสียสละเลือดเนื้อของบรรพบุรุษ”

นิทรรศการ “ผืนแผ่นดินเดียวกัน” จะจัดไปจนถึงเดือนสิงหาคมปีนี้ ชึ่งจะช่วยให้ผู้ชมตระหนักได้ดีถึงคุณค่าของสันติภาพและการรวมประเทศเป็นเอกภาพของประชาชาติเวียดนาม.