รถถังรหัส 846 ได้บุกพังประตูทำเนียบเอกราช ศูนย์บัญชาการแห่งสุดท้ายของทางการไซ่ง่อน

ภายหลังรวมประเทศเป็นเอกภาพ ในตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ประชาชนเวียดนามยังคงจดจำเกียรติประวัติที่รุ่งโรจน์ของประชาชาติ ถอดบทเรียนและประสบการณ์ในกระบวนการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ

ยืนยันความมุ่งมั่นและสติปัญญาเวียดนาม

ทั้งนี้ มหาชัยชนะฤดูใบไม้ผลิปี 1975 ได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นและสติปัญญาเวียดนามในยุคโฮจิมินห์ แนวทางการปฏิวัติ วิธีการชี้นำที่ปรีชาสามารถและถูกทิศทางของกรมการเมืองพรรคและพรรคสาขากองทัพส่วนกลาง การชี้นำที่คล่องตัวและทันการณ์ของกองบัญชาการกองทัพและกองบัญชาการประจำสมรภูมิและยุทธนาการต่างๆ ความมุ่งมั่นของกองทัพและประชาชนทุกคน การประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้าและประชาชนในแนวหลัง ระหว่างหน่วยทหารหลัก ทหารบ้านและประชาชนในการลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ อีกทั้งเป็นจุดสูงสุดและการต่อยอดศิลปะการทหารแห่งสงครามประชาชนเวียดนาม ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์และสอดคล้องกับระยะต่างๆของสงครามต่อต้านศัตรูผู้รุกรานเพื่อกู้ชาติ ผสานพลังที่เข้มแข็งของกองกำลังต่างๆและประชาชนทุกภาคส่วนเพื่อสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่ในการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆให้ลุล่วงไปด้วยดี พลเอก ฟานวันยาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ยืนยันว่า

“มหาชัยชนะฤดูใบไม้ผลิปี 1975 ได้ยืนยันถึงแนวทางเดินหน้าการปฏิวัติอย่างสร้างสรรค์ วิธีการบริหารชี้นำที่ถูกต้องของพรรค เป็นชัยชนะของสงครามประชาชน แสดงให้เห็นถึงความรักชาติ ความมุ่งมั่นรวมประเทศเป็นเอกภาพและความคาดหวังในสันติภาพ พลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติผสานกับพลังที่เข้มแข็งของยุคสมัย”

ภาพพิธีเปิด 80 กิจการและโครงการสำคัญระดับชาติเมื่อวันที่ 19 เมษายน (VGP)

หวนมองอดีตเพื่อก้าวไปข้างหน้า

ในตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ผลสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนามได้แสดงให้เห็นว่า “พรรคนับวันพัฒนายิ่งใหญ่มากขึ้น ประเทศนับวันเข้มแข็ง เจริญรุ่งเรือง พึ่งตนเอง ส่วนชีวิตความเป็นอยู่ทั้งด้านวัตถุและจิตใจของประชาชนนับวันได้รับการยกระดับให้สูงขึ้น” อันเป็นการยืนยันว่า เวียดนามได้ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายทางประวัติศาสตร์ “ประเทศไม่เคยมีศักยภาพ บทบาทสถานะและชื่อเสียงที่สูงเด่นบนเวทีโลกเหมือนในปัจจุบัน” ซึ่งในพิธีเปิด 80 กิจการและโครงการสำคัญระดับชาติเมื่อวันที่ 19 เมษายน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า

“กระบวนการรวมประเทศเป็นเอกภาพในตลอด 50 ปีที่ผ่านมาเป็นกระบวนการที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้เราทุกคนทบทวนประวัติศาสตร์ที่รุ่งโรจน์ของประชาชาติ ถอดบทเรียนและประสบการณ์ต่างๆและมุ่งมั่นสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ ซึ่งต้องหวนมองอดีตเพื่อก้าวไปข้างหน้า พัฒนาตนเองมากขึ้น มีความภาคภูมิใจในชาติและมุ่งสู่อนาคตที่สดใสด้วยความภาคภูมิใจ ความเชื่อมั่นและแรงกระตุ้นที่เข้มแข็งเพื่อเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ทางประวัติศาสตร์ในศักราชใหม่ ศักราชแห่งการผงาด การพัฒนาเข้มแข็ง มีอารยธรรมและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น”

ในระยะการปฎิวัติใหม่ ด้วยความมุ่งมั่นและจากบทบาทสำคัญของชัยชนะวันที่ 30 เมษายนปี 1975 เวียดนามได้เดินหน้ารักษาเสถียรภาพทางการเมือง บรรยากาศสันติภาพ สร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาประเทศให้มั่นคงและก้าวไปสู่สังคมนิยม ซึ่งเพื่อตอบสนองความต้องการสร้างสรรค์ระบบการเมืองที่ทันสมัยและโปร่งใสเพื่อพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืนในศักราชใหม่ เวียดนามกำลังเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรบริหารราชการตามมติที่ 18 ของคณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 12 เพื่อสร้างก้าวกระโดดทั้งด้านแนวความคิด ทฤษฎี การชี้นำปฏิบัติกลไกเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินการของทั้งระบบและเตรียมให้แก่วิสัยทัศน์การพัฒนาจนถึงปี 2045 ซึ่งเป็นการรำลึกครบรอบ 100 ปีการสถาปนาประเทศ

เวียดนามยังเดินหน้าส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ ประยุกต์ใช้บทเรียนเกี่ยวกับการระดมแหล่งพลังต่างๆและความมุ่งมั่นสร้างก้าวกระโดดของชัยชนะวันที่ 30 เมษายนปี 1975 ในการปฏิบัติเป้าหมายเศรษฐกิจสังคม โดยเฉพาะการกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ ปฏิบัติมติที่ 57 ของกรมการเมืองพรรคสมัยที่ 13 เกี่ยวกับก้าวกระโดดในการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี นวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลระดับชาติ การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล เพิ่มผลผลิต คุณภาพ ประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจ ระดมทุกแหล่งพลังและส่งเสริมศักยภาพอย่างเต็มที่เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืน

พลเอก ฟานวันยาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวปราศรัยในการสัมมนาเชิงวิชาการระดับชาติ "มหาชัยชนะฤดูใบไม้ผลิปี 1975 กับศักราชแห่งการพัฒนาใหม่ของประชาชาติเวียดนาม"

ควบคู่กันนั้น เวียดนามยังเน้นพัฒนาแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพผสานกับการสร้างสรรค์วัฒนธรรมเวียดนามที่ก้าวหน้าและเป็นเอกลักษณ์ประชาชาติ งานด้านกลาโหม ความมั่นคงและการต่างประเทศ แปรความเข้าใจ ทัศนะและแนวทางของพรรคเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างงานด้านกลาโหม ความมั่นคงและการต่างประเทศเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายและยุทธศาสตร์เพื่อมีส่วนร่วมปกป้องประเทศและรับมือปัญหาต่างๆ ตั้งแต่เนิ่นๆ

ทั้งนี้ มติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 เมื่อปี 2021 ได้ตั้งเป้าหมายว่า จนถึงปี 2030 ในโอกาสรำลึกครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งพรรค จะเป็นประเทศกำลังพัฒนา มีอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและมีรายได้ปานกลางในระดับสูง จนถึงปี 2045 ในโอกาสรำลึกครบรอบ 100 ปีการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันคือสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จะเป็นประเทศพัฒนาและมีรายได้ในระดับสูง ซึ่งเจตนารมณ์ของชัยชนะวันที่ 30 เมษายนปี 1975 จะเป็นพลังขับเคลื่อนและแรงบันดาลใจให้ประชาชนเวียดนามปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จภายใต้การชี้นำของพรรค.