พลเอกหวอเงวียนย้าป ในสายธารแห่งประวัติศาสตร์เวียดนาม

Chia sẻ

(VOVworld)- พลเอกหวอเงวียนย้าป ลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมของประธานโฮจิมินห์ จอมพลที่ปรีชาสามารถของมนุษยชาติในศตวรรษที่20 สติปัญญา ความสามารถและความมั่นคงพร้อมส่วนอุทิศที่ยิ่งใหญ่ของท่านได้สร้างชื่อเสียงที่ก้องระบือในประวัติศาสตร์ของชาติเวียดนามและในประวัติศาสตร์ของชาวโลกด้วย


(VOVworld)- พลเอกหวอเงวียนย้าป ลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมของประธานโฮจิมินห์ จอมพลที่ปรีชาสามารถของมนุษยชาติในศตวรรษที่20 ชีวิตและภารกิจของท่านได้ผูกพันธ์กับกระบวนการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติครั้งต่างๆ สติปัญญา ความสามารถและความมั่นคงพร้อมส่วนอุทิศที่ยิ่งใหญ่ของท่านได้สร้างชื่อเสียงที่ก้องระบือในประวัติศาสตร์ของชาติเวียดนามและในประวัติศาสตร์ของชาวโลกด้วย

พลเอกหวอเงวียนย้าป ในสายธารแห่งประวัติศาสตร์เวียดนาม - ảnh 1
พลเอกหวอเงวียนย้าปกับประธานโฮจิมินห์ (VNA)

ในชีวิตการเป็นผู้บัญชาการกองทัพ พลเอกหวอเงวียนย้าปได้นำพากองทัพปฏิวัติที่เริ่มด้วยสมาชิกเพียง34คนของกองกำลังเวียดนามประชาสัมพันธ์เพื่อการปลดปล่อยพร้อมปืนแก๊ปงและเท้าเปล่าจนพัฒนาเติบโตเป็นกองทัพที่แข็งแกร่ง สามารถรบชนะศัตรูผู้รุกรานครั้งแล้วครั้งเล่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ชัยชนะเดียนเบียนฟูที่ก้องระบือไปทั่วโลกเมื่อปี1954 และมหาชัยฤดูใบไม้ผลิปี1975 ปลดปล่อยภาคใต้รวมประเทศเวียดนามเป็นหนึ่งเดียว โดยภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและประธานโฮจิมินห์ พลเอกหวอเงวียนย้าปได้มีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ในการสร้างสรรค์ทฤษฏีทางการทหารที่เป็นเอกลักษณ์ของเวียดนามในยุคโฮจิมินห์นั่นคือการทำสงครามประชาชนเพื่อมีชัยเหนือกองทัพที่ทันสมัย  รองศ.ดร. เหงวียนแหมงห่า หัวหน้าสถาบันประวัติศาสตร์พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเผยว่าท่านคือนายพลที่ชีวิตผูกพันธ์กับกองทัพยาวนานที่สุดและก็เป็นนายพลที่ได้รับการยกย่องเป็นพี่ใหญ่ของกองทัพ เมื่อพูดถึงพลเอกหวอเงวียนย้าปทุกคนจะนึกถึงผู้บัญชาการ นักการทหารที่อัจฉริยะ สามารถสร้างสรรค์ผลงานอันยิ่งใหญ่ในการรบชนะนักล่าเมืองขึ้นและจักรวรรดินิยมที่เข้มแข็งที่สุดในศตวรรษที่20 จนทำให้นักประวัติศาสตร์ต่างชาติต้องยกย่องว่าพลเอกหวอเงวียนย้าปเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีส่วนร่วมสร้างสรรค์โครงสร้างในยุคใหม่ของทั้งเวียดนามและโลก
ในยุทธนาการณ์เดียนเบียนฟูปี1954 ตามคำชี้นำของประธานโฮจิมินห์ที่ว่า “การสู้รบครั้งนี้มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากมั่นใจว่าจะชนะได้ก็ให้ลุยแต่ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่ควรเสี่ยงรบ” ซึ่งพลเอกย้าปได้มีการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิตของการเป็นผู้บัญชาการใหญ่คือ เปลี่ยนจากการรบเร็วเพื่อชัยชนะมาเป็นการรบช้าแต่มั่นคง และชัยชนะที่ระบือไกลของกองทัพประชาชนเวียดนามในภายหลังได้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงสติปัญญาความสามารถและอัจฉริยะภาพด้านการทหารของพลเอก ยุติการทำสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสที่นาวนาน9ปีของประชาชาติเวียดนาม พลตรีหยุงจี อดีตทหารผ่านศึกยุทธนาการณ์เดียนเบียนฟูเล่าว่าตอนนั้นผมเป็นหัวหน้ากองร้อย สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถและชาญฉลาดของนายพลย้าปคือเปลี่ยนกลยุทธ ซึ่งขณะนั้นผมรู้สึกไม่พอใจเมื่อได้รับคำสั่งว่าต้องนำทัพถอยออกมาให้เร็วที่สุดขณะที่ทุกหน่วยทหารได้เข้าที่เตรียมพร้อมบุกแล้ว แต่หลังจากที่ได้ถอยกำลังออกมาแล้วไปตรวจสถานการณ์เนินเอ1อีกครั้งผมจึงเข้าใจว่าการตัดสินใจของท่านเกี่ยวกับการรบแบบมั่นคงและการขุดหลุมเพลาะเป็นแนวยาวสลับซับซ้อนนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ทำให้กองทัพของศัตรูไม่สามารถส่งสเบียงกรังได้และ ถึงเวลา14.30นวันที่6พฤษภาคมปี1954 ก่อนเปิดการรุกโจมตีครั้งสุดท้ายที่เดียนเบียนฟู พวกเราได้เดินลาดตระเวนในสนามเพลาะที่ลึก1.7เมตรอย่างปลอดภัยและตอนนั้นในใจของทหารทุกนายต่างมีความซาบซึ้งและศรัทธาในตัวท่านเป็นอย่างมาก
เมื่อเข้าสู่สงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกาเพื่อกู้ชาติ ประวัติศาสตร์เวียดนามก็ได้จารึกถึงสติปัญญาความสามารถของกองทหารที่รู้จักใช้โอกาสและมีการตัดสินใจแห่งยุทธศาสตร์ที่สามารถรวบรวมพลังที่เข้มแข็งของชนทั้งชาติเพื่อชัยชนะ  จากวิสัยทัศน์แห่งยุทธศาสตร์ บรรดาผู้นำขบวนการต่อสู้ได้วางแนวทางเปิดเส้นทางส่งสเบียงกรังยุทธศาสตร์บนเทือกเขาเจื่องเซินและทางทะเล โดยท่านพลเอกหวอเงวียนย้าปเองเป็นผู้ที่ทุ่มเทกับการชี้นำเปิดเส้นทางนี้ให้เหล่าทัพและกองปืนใหญ่มุ่งหน้าสู่สมรภูมิภาคใต้ พลตรีฟานคักฮวี อดีตรองผู้บัญชาการทหารเจื่องเซินเล่าว่า ท่านพลเอกได้ออกคำสั่งให้โจมตีเปิดทางมุ่งไปข้างหน้า กำลังทหารรบทำหน้าที่ต่อสู้ กำลังทหารช่างและเยาวชนอาสาสมัครทำหน้าที่เปิดทาง สร้างเส้นทางคมนาคมที่สลับซับซ้อนข้ามป่าเขา ช่วยปกป้องเส้นทางลำเลียงยุทโธปกรณ์ให้แก่แนวหน้า คำสั่งของพลเอกหวอเงวียนย้าป “ต้องรวดเร็วเหมือนสายฟ้าแลป ต้องกล้าหาญ กล้าหาญยิ่งขึ้น ใช้เวลาทุกนาทีให้เป็นประโยชน์เพื่อมุ่งสู่สมรภูมิปลดปล่อยภาคใต้ ปักใจรบเพื่อชัยชนะ”ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งการต่อสู้กับสหรัฐอเมริกานั้นได้เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ทั้งกองทัพและประชาชนเวียดนามจนนำไปสู่มหาชัยชนะฤดูใบไม้ผลิปี1975 ปลดปล่อยภาคใต้อย่างสมบูรณ์รวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว

พลเอกหวอเงวียนย้าป ในสายธารแห่งประวัติศาสตร์เวียดนาม - ảnh 2
พลเอกหวอเงวียนย้าปปี1968

นอกจากเป็นนักการทหารที่ปรีชาสามารถแล้ว ความเป็นมนุษย์ศาสตร์ในการชี้นำกองทัพของพลเอกหวอเงวียนย้าปก็ได้ช่วยให้ชื่อเสียงของท่านกลายเป็นตำนานที่อมตะ ท่านได้สัญญากับปิตุภูมิและประชาชนว่าต้องชนะแต่ต้องสูญเสียน้อยที่สุด พันเอกหวูตางบ่ง อดีตหัวหน้าภาควิชาประวัติศาสตร์การต่อสู้กับนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสแห่งสถาบันประวัติศาสตร์การทหารเวียดนามเผยว่า ท่านได้ไปให้กำลังใจทหารตามสนามรบต่างๆเสมอ โดยการปรากฎตัวของผู้นำสูงสุดแห่งกองทัพที่สนามรบได้สร้างขวัญกำลังใจอย่างลึกซึ้งในจิตใจของทหารทุกนาย การเยี่ยมเยือนให้กำลังใจนี้มิใช่เเค่เป็นการจับมือปลอบใจเท่านั้นหากท่านยังมีคำสั่งชี้นำอย่างละเอียดอีกด้วย

หลายคนได้ยกย่องท่านว่าเป็นนายพลอัจฉริยะแต่ท่านได้บอกว่าตัวเองแค่เป็นหยดน้ำท่ามกลางทะเลกว้าง ทะเลแห่งประชาชน โดยทุกผลงานและทุกชัยชนะนั้นมาจากการชี้นำอย่างปรีชาสามารถของประธานโฮจิมินห์และพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และนายพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเวียดนามคือประชาชนเวียดนามนั่นเอง
ชีวิตของพลเอกหวอเงวียนย้าป ลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมของประธานโฮจิมินห์มีความผูกพันธ์กับนิมิตหมายทองแห่งประวัติศาสตร์การพิทักษ์รักษาชาติของเวียดนามในศตวรรษที่20 ผลงานและบุคลิกภาพอันสูงส่งของท่านได้ยืนยงคงอยู่ในสายธารแห่งประวัติศาสตร์ของชาติเวียดนามตลอดกาล./.

นอกจากเป็นนักการทหารที่ปรีชาสามารถแล้ว ความเป็นมนุษย์ศาสตร์ในการชี้นำกองทัพของพลเอกหวอเงวียนย้าปก็ได้ช่วยให้ชื่อเสียงของท่านกลายเป็นตำนานที่อมตะ ท่านได้สัญญากับปิตุภูมิและประชาชนว่าต้องชนะแต่ต้องสูญเสียน้อยที่สุด พันเอกหวูตางบ่ง อดีตหัวหน้าภาควิชาประวัติศาสตร์การต่อสู้กับนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสแห่งสถาบันประวัติศาสตร์การทหารเวียดนามเผยว่า ท่านได้ไปให้กำลังใจทหารตามสนามรบต่างๆเสมอ โดยการปรากฎตัวของผู้นำสูงสุดแห่งกองทัพที่สนามรบได้สร้างขวัญกำลังใจอย่างลึกซึ้งในจิตใจของทหารทุกนาย การเยี่ยมเยือนให้กำลังใจนี้มิใช่เเค่เป็นการจับมือปลอบใจเท่านั้นหากท่านยังมีคำสั่งชี้นำอย่างละเอียดอีกด้วย
หลายคนได้ยกย่องท่านว่าเป็นนายพลอัจฉริยะแต่ท่านได้บอกว่าตัวเองแค่เป็นหยดน้ำท่ามกลางทะเลกว้าง ทะเลแห่งประชาชน โดยทุกผลงานและทุกชัยชนะนั้นมาจากการชี้นำอย่างปรีชาสามารถของประธานโฮจิมินห์และพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และนายพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเวียดนามคือประชาชนเวียดนามนั่นเอง
ชีวิตของพลเอกหวอเงวียนย้าป ลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมของประธานโฮจิมินห์มีความผูกพันธ์กับนิมิตหมายทองแห่งประวัติศาสตร์การพิทักษ์รักษาชาติของเวียดนามในศตวรรษที่20 ผลงานและบุคลิกภาพอันสูงส่งของท่านได้ยืนยงคงอยู่ในสายธารแห่งประวัติศาสตร์ของชาติเวียดนามตลอดกาล./.

นอกจากเป็นนักการทหารที่ปรีชาสามารถแล้ว ความเป็นมนุษย์ศาสตร์ในการชี้นำกองทัพของพลเอกหวอเงวียนย้าปก็ได้ช่วยให้ชื่อเสียงของท่านกลายเป็นตำนานที่อมตะ ท่านได้สัญญากับปิตุภูมิและประชาชนว่าต้องชนะแต่ต้องสูญเสียน้อยที่สุด พันเอกหวูตางบ่ง อดีตหัวหน้าภาควิชาประวัติศาสตร์การต่อสู้กับนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสแห่งสถาบันประวัติศาสตร์การทหารเวียดนามเผยว่า ท่านได้ไปให้กำลังใจทหารตามสนามรบต่างๆเสมอ โดยการปรากฎตัวของผู้นำสูงสุดแห่งกองทัพที่สนามรบได้สร้างขวัญกำลังใจอย่างลึกซึ้งในจิตใจของทหารทุกนาย การเยี่ยมเยือนให้กำลังใจนี้มิใช่เเค่เป็นการจับมือปลอบใจเท่านั้นหากท่านยังมีคำสั่งชี้นำอย่างละเอียดอีกด้วย
หลายคนได้ยกย่องท่านว่าเป็นนายพลอัจฉริยะแต่ท่านได้บอกว่าตัวเองแค่เป็นหยดน้ำท่ามกลางทะเลกว้าง ทะเลแห่งประชาชน โดยทุกผลงานและทุกชัยชนะนั้นมาจากการชี้นำอย่างปรีชาสามารถของประธานโฮจิมินห์และพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และนายพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเวียดนามคือประชาชนเวียดนามนั่นเอง
ชีวิตของพลเอกหวอเงวียนย้าป ลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมของประธานโฮจิมินห์มีความผูกพันธ์กับนิมิตหมายทองแห่งประวัติศาสตร์การพิทักษ์รักษาชาติของเวียดนามในศตวรรษที่20 ผลงานและบุคลิกภาพอันสูงส่งของท่านได้ยืนยงคงอยู่ในสายธารแห่งประวัติศาสตร์ของชาติเวียดนามตลอดกาล./.

คำติชม