บริษัท DDA INVESTMENT CORPORATION เวียดนามซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการ “ผู้หญิงเป็นเจ้าของชีวิตตนเอง” ของกรุงฮานอย  (hanoimoi.vn)

บริษัท DDA INVESTMENT CORPORATION เวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการ “ผู้หญิงเป็นเจ้าของชีวิตตนเอง” ของกรุงฮานอย ได้บรรลุผลสำเร็จมากมายจากการสนับสนุนของสหพันธ์สตรีกรุงฮานอย นาง เหงวียนแอ๊งเหงวียด ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ ร่วมกับทีมนักวิทยาศาสตร์และเภสัชกรเวียดนาม สามารถสกัดไบโอแคลเซียมที่มีความบริสุทธิ์มากถึงร้อยละ 99.9 จนสำเร็จและได้รับมอบสิทธิบัตรจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม โดยบริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนทั้งในด้านกฎหมาย การประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมถึงการสร้างรูปแบบการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานได้สำเร็จอีกด้วย นาง เหงวียนแอ๊งเหงวียด เผยว่า

“พวกเราได้รับการแนะแนวมากมายเกี่ยวกับกระบวนการผลิตที่ถูกต้องตามกฎระเบียบทางกฎหมาย ซึ่งสหพันธ์สตรีกรุงฮานอย รวมถึงสหพันธ์สตรีเวียดนาม ได้ให้การสนับสนุนพี่น้องสตรีอย่างมากในการจัดงานแสดงสินค้าหรืองานสัมมนาต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถแลกเปลี่ยนและแบ่งปันความรู้ระหว่างกัน”

ด้วยการนำเปลือกสับปะรดที่ไม่มีค่ามาแปรรูปให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้าชีวภาพ Hafalife ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกแห่งสีเขียวที่มีคุณค่าต่อสังคมนั้น ถือเป็นเป้าหมายของ เหงวียนถิเกว๊แอง  นักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่และประธานวิสาหกิจเพื่อสังคม สนับสนุนสตรีในการพัฒนาเศรษฐกิจโลก RB และทีมงานโครงการ “ยกระดับขีดความสามารถในการปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียวด้านการผลิตและส่งเสริมการค้าผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้าชีวภาพ Hafalife” โดยกระบวนการผลิตสินค้าได้รับการประยุกต์จากผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายฉบับพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยตามมาตรฐานยุโรป เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้าออร์แกนิกที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งในอนาคตอันใกล้ บริษัทฯ จะทำการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Hafalife ในรูปแบบการสนับสนุนเงินทุนผ่านผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างโอกาสการทำธุรกิจให้กับกลุ่มสตรีโดยไม่จำเป็นต้องมีทุนและสามารถสร้างรายได้ที่สูงขึ้น เพื่อเป้าหมายการสร้างฐานะทางการเงินและมีอิสระในการใช้ชีวิต นาง เหงวียนถิเกว๊แอง เผยว่า

“ทางบริษัทฯ ยืนหยัดแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ไม่ได้มุ่งแต่ขายของเท่านั้น แต่ยังต้องมีความรับผิดชอบต่อการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงการปกป้องสิทธิผู้บริโภคและให้ความสำคัญต่อชุมชนด้วย โดยเป้าหมายของการส่งสินค้าเข้าร่วมการประกวด นักธุรกิจหญิงสตาร์ทอัพกับการปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียวเชิงสร้างสรรค์ ประจำปี 2024 ของพวกเราคือ เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องสตรีหลายพันคนได้มีสินค้าที่ปลอดภัยและประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะกลไกการให้เงินทุนสนับสนุนสตรีเข้าร่วมธุรกิจสตาร์ทอัพเพื่อสร้างรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น”

นาง เหงวียนแอ๊งเหงวียด ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ ร่วมกับทีมนักวิทยาศาสตร์และเภสัชกรเวียดนาม (hanoimoi.vn)

สำหรับโครงการสกัดไบโอแคลเซียมจากเปลือกไข่และโครงการผลิตน้ำยาซักผ้า Hafalife จากเปลือกสับปะรด เป็น 2 ใน 15 โครงการที่ได้รับรางวัลในการประกวด  “นักธุรกิจหญิงสตาร์ทอัพกับการปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียวเชิงสร้างสรรค์ ประจำปี 2024” ที่จัดโดยสหพันธ์สตรีกรุงฮานอย ซึ่งการพัฒนาพื้นที่เขตเมืองแห่งสีเขียวเชิงนิเวศเป็นเป้าหมายที่ถูกระบุอย่างชัดเจนในแผนสร้างสรรค์กรุงฮานอยจนถึงปี 2030 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2050 โดยยืนยันที่จะมีการผสมผสานองค์ประกอบต่างๆ ทางธรรมชาติ สังคม และผู้คน เพื่อให้กรุงฮานอยสามารถพัฒนาเป็นเมืองหลวงแห่งสีเขียว ทันสมัย และอัจฉริยะ  ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมา สหพันธ์สตรีกรุงฮานอยทุกระดับได้มีการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ทั้งทางตรงและออนไลน์มากมาย เพื่อสร้างความตระหนักรู้และหน้าที่ความรับผิดชอบของสตรีในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นมิตร ให้สอดคล้องกับการดำเนินโครงการ “สนับสนุนนักธุรกิจหญิงฮานอยในการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพเชิงสร้างสรรค์”  นาง เลถิเทียนเฮือง รองประธานสหพันธ์สตรีกรุงฮานอย เผยว่า 

“พวกเราได้มีการประสานงานกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการและสหกรณ์ รวมถึงธุรกิจครอบครัวที่มีสตรีเป็นเจ้าของกิจการ เพื่อปรับเปลี่ยนสู่รูปแบบการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติเพียงอย่างเดียวมาสู่การพัฒนาระบบนิเวศ เพื่อมุ่งสู่เศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจหมุนเวียน”

ด้วยการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากสหพันธ์สตรีทุกระดับในพื้นที่ ได้มีส่วนช่วยให้สตรีหลายคนกล้าคิดกล้าทำในการลงทุนเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพ  พลิกความท้าทายให้เป็นโอกาส เพื่อบรรลุผลสำเร็จในวันข้างหน้า นาง ฟานถิโห่งแห็ง ผู้จัดการใหญ่บริษัทอาหาร TAKICHI VIETNAM ได้แสดงความเห็นว่า

“เมื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหพันธ์สตรี พวกเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับทักษะการนำเสนอสินค้าและข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพ รวมถึงกระบวนการผลิตสินค้าให้มีความปลอดภัยมากที่สุด”

ยิ่งไปกว่านั้น ทางสำนักงานและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็ได้ให้ความร่วมมือและสนับสนุนให้แก่สตรีกรุงฮานอยในการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพ นาย เหงวียนดิ่งวฮวา รองผู้อำนวยการสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทกรุงฮานอย เผยว่า

“การสร้างความเชื่อมโยงทางการค้า นำเสนอและเผยแพร่สินค้าพื้นเมืองและสินค้า OCOP รวมถึงสินค้าเกษตรและอาหารต่างๆ ในงานแสดงสินค้า งานเทศกาลเฟสติวัล หรือนิทรรศการ ได้สร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยและเปิดโอกาสให้แก่กลุ่มเจ้าของกิจการและโรงงานผลิตในการประชาสัมพันธ์สินค้าของตนเอง ควบคู่กับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเชื่อมโยงในการจำหน่ายสินค้า นอกจากนี้ พวกเรายังให้การสนับสนุนในการปกป้องคุ้มครองแบรนด์และเครื่องหมายการค้า พร้อมการส่งเสริมสินค้าบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและอีคอมเมิร์ซต่างๆ อีกด้วย”

ทั้งนี้ ตามรายงานสถิติของสหพันธ์สตรีกรุงฮานอย ตั้งแต่ปี 2018 จนถึงปัจจุบัน มีสตรีได้รับการเผยแพร่และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพกว่า 12,000 ราย ขณะที่จำนวนผู้หญิงที่ได้รับการช่วยเหลือในการดำเนินกิจการจนประสบความสำเร็จอยู่ที่กว่า 4,250 คน และมีสถานประกอบการและสหกรณ์ที่ได้รับการสนับสนุนในการส่งเสริมด้านการค้า ประชาสัมพันธ์ และจัดจำหน่ายสินค้า กว่า 1,200 แห่ง ซึ่งถือเป็นแรงจูงใจให้สตรีกรุงฮานอยมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันต่อการพัฒนากรุงฮานอย อีกทั้งยืนยันบทบาทของตนเองในครอบครัวและสังคม./.