( VOVworld )-
นายโพล จอร์จ ฮาร์ดิง ทหารผ่านศึกอเมริกันได้กลับมาเวียดนามด้วยวัตถุประสงค์ว่าจะทำสิ่งต่างๆที่เป็นรูปธรรมเพื่อชดเชยความปวดร้าวที่ชาวเวียดนามต้องทนรับเพราะสงคราม เขาได้เปิดชั้นเรียนภาษาอังกฤษที่ไม่เก็บค่าเล่าเรียนขึ้น ณ กรุงฮานอย เพื่อเป็นการไถ่โทษต่อประชาชนเวียดนามของนายโพล จอร์จ ฮาร์ดิง
ครูโพล์กับผู้ช่วยฝึกออกเสียงให้แก่รักเรียน
ชั้นเรียนภาษาอังกฤษของครูโพล จอร์จ ฮาร์ดิง เปิดสอนสัปดาห์ละ ๘ ครั้ง ณ ห้องประชุมของย่านชุมชนหมายเลข ๙ ตำบลจูงหว่า เขตเกิ่วเย้ย กรุงฮานอยที่มีบรรยากาศที่คึกคักไปด้วยเสียงของนักเรียนและครู จากการสอนนักเรียนด้วยใจรักของครูโพลทำให้นักเรียนหลากเพศหลายวัยพากันเข้าร่วมเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นเด็กวัย ๕และ๖ขวบ นักเรียนและนักศึกษาตลอดจนผู้สูงอายุวัย ๖๐และ๗๐ คุณลุงต่ากวางเตี๊ยปอายุ ๗๒ ปี บ้านอยู่ที่ถนนด่ายลา เขตฮายบ่าจึงกล่าวว่า “ ครูสอนดีมากและถ่ายทอดเข้าใจง่าย ถือนักเรียนเหมือนคนในบ้านเดียวกัน บางวันท่านสอนสองถึงสามคาบเหนื่อยพอสมควรโดยเฉพาะท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดอย่างนี้แต่ท่านยังมีท่าทีที่สนุกสนาน ”
ครูโพลเน้นฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษให้แก่นักเรียน ท่านให้นักเรียนแต่ละคนอ่านผ่านไมโครโฟนแล้วแก้ให้หากออกเสียงไม่ถูกต้อง ท่านยังให้กำลังใจนักเรียนให้กล้าพูดจาสื่อสาร อ่านเสียงดังและทำงานเป็นทีมเวิร์ค ทั้งนี้ทำให้บรรยากาศในห้องเรียนมีความเป็นกันเองและเปิดรับสิ่งใหม่ๆ นางสาวห่าถิ่ถ่าว นักศึกษาปีที่สอง สถาบันธนาคารเล่าว่า “ ก่อนหน้านี้ ดิฉันสนใจเรียนไวยากรณ์มากกว่าการสื่อสาร ภายหลังเรียน ที่นี่มาเป็น ๒ เดือนโดยได้รับการสอนและฝึกจากครูโพล ภาษาอังกฤษของดิฉันดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการออกเสียง ดิฉันเชื่อว่า ภาษาอังกฤษของดิฉันจะดีขึ้นเรื่อยๆภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ”
นางสาวเหงวียนมายเล นักศึกษามหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยที่เป็นนักศึกษาช่วยสอนให้กับครูโพลเปิดเผยว่า วิธีการสอนของครูโพลเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกการสื่อสาร “ ครูโพลมักจะสอนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เวียดนามเพราะนักเรียนทุกคนสนใจประวัติศาสตร์ บททดสอบต่างๆมักจะเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เช่น ในโอกาสวันขัยชนะเดียนเบียนฟู ๗ พฤษภาคมท่านได้สอนเกี่ยวกับเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์นี้ ”
ครูโพลฝึกออกเสียงให้นักเรียนแต่ละคน
นายโพล จอร์จ ฮาร์ดิง เข้าร่วมสงครามเวียดนามช่วงปีคริสตศักราช ๑๙๖๙-๑๙๗๐ ณ สมรภูมิบิ่นห์ดิ่นห์และเลิมด่ง แม้สงครามได้ผ่านพ้นไปมาหลายสิบปีแต่ความทรงจำเกี่ยวกับสงครามที่ดุเดือดยังคงหลอกหลอนท่านมาตลอด และท่านได้ตัดสินใจกลับมาเวียดนามเพื่อทำในสิ่งที่มีประโยชน์ต่อคนที่นี่ และท่านได้พบว่า ชาวเวียดนามไม่เคียดแค้นชาวอเมริกันอีกแล้ว โดยเฉพาะทหารผ่านศึกชาวอเมริกันที่เคยก่อความปวดร้าวและความสูญเสียให้แก่พวกเขา คนเวียดนามใจดีและไม่ถือสา จากการศึกษา นายโพลเข้าใจได้ว่า คนเวียดนามต้องการเรียนภาษาอังกฤษ จึงเกิดไอเดียเปิดสอนภาษาอังกฤษโดยไม่เก็บค่าเล่าเรียน และชั้นเรียนภาษาอังกฤษได้รับการเปิดขึ้น ณ เวียดนามภายหลังที่นายโพลมา ได้ ๑๐ วันเท่านั้น ตอนแรกชั้นเรียนได้จัดอยู่ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในฮานอยโดยมีนักเรียนไม่กี่คน ต่อมาจำนวนคนเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเป็น ๔๐๐ คนและคณะกรรมการประชาชนตำบลจูงหว่าได้จัดห้องเรียนให้หนึ่งห้องในย่านชุมชนหมายเลข ๙ นาย โพล จอร์จ ฮาร์ดิง กล่าวว่า “ ผมประทับใจมากต่อการขยันเรียนของนักเรียน ความต้องการเรียนภาษาอังกฤษของคนเวียดนามสูงมาก เมื่อผมออกนอกบ้าน มีหลายคนที่พบกับผมก็แสดงความประสงค์ที่จะได้เรียนภาษาอังกฤษกับผม พวกเขามาเรียนที่บ้านผมหรือมาเรียนที่ชั้นเรียน แต่เนื่องจากมีห้องเรียนหนึ่งห้องเท่านั้นจึงไม่สามารถรับคนได้ทั้งหมด ”
นับตั้งแต่เปิดสอนภาษาอังกฤษ นายโพลสามารถค้นพบวัยหนุ่มของตนเองที่ติดในสมรภูมิภาคใต้เวียดนามและความหลอกหลอนเขาเกี่ยวกับสงครามในอดีตค่อยๆเลือนหายไป นายโพลได้กล่าวถึงแผนของตนในอนาคตว่า จะเปิดชั้นเรียนภาษาอังกฤษอีกหลายๆชั้นในพื้นที่นครหลวงฮานอยและจะขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆโดยหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้มีใจกุศล ./.