ชนเผ่า Bahnar ในจังหวัดยาลาย ผลิตกาแฟตามมาตรฐานเพื่อการส่งออก

Nguyễn Thảo; Vĩnh Phong
Chia sẻ
(VOVWORLD) -  Dak Doa เป็นหนึ่งในเขตปลูกกาแฟแบบดั้งเดิมของจังหวัดยาลาย ในหลายปีมานี้ จากการปรับตัวเข้ากับแนวโน้มของตลาดและเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสถานประกอบการส่งออกกาแฟ ดังนั้น ประชาชนในท้องถิ่นกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตกาแฟแบบดั้งเดิมมาเป็นการผลิตกาแฟตามมาตรฐานระดับโลกเพื่อการส่งออกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ชนเผ่า Bahnar ในจังหวัดยาลาย ผลิตกาแฟตามมาตรฐานเพื่อการส่งออก - ảnh 1สวนปลูกกาแฟของนาย ซีมน

สวนกาแฟพื้นที่ 1 เฮกตาร์ของครอบครัวนาย ซีมน ในหมู่บ้าน Dor 2 ในอำเภอ ดั๊กดวา จังหวัดยาลาย กำลังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยว ซึ่งเขาบอกว่า ถึงแม้ฤดูเก็บเกี่ยวปีนี้ ราคากาแฟสดในตลาดไม่ถึง 7 พันด่งต่อกิโลกรัม แต่จากการเพาะปลูกตามใบรับรอง UTZ ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกเกี่ยวกับกาแฟสะอาด ค้ำประกันสุขภาพของผู้ปลูกและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในระหว่างการผลิต ดังนั้น  ครอบครัวของเขายังคงขายกาแฟได้ในราคา 8.5 พันด่งต่อกิโลกรัม เขาและครอบครัวอื่นๆในหมู่บ้าน Dor 2 ได้เข้าร่วมสหกรณ์การเกษตรและการบริการลามแองในหมู่บ้าน Tuơh Ktu ตำบล Glar โดยให้คำมั่นว่า จะร่วมกันผลิตกาแฟตามมาตรฐาน UTZ ตั้งแต่ฤดูปลูกาแฟ 2018-2019 โดยกระบวนการผลิตได้เปลี่ยนไปใช้แนวทางการปลูกแบบอินทรีย์โดยจะใช้ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมีเป็นช่วงเวลาสั้นๆตามกระบวนการเท่านั้นและมีการเพิ่มปริมาณปุ๋ยอินทรีย์และโปรไบโอติกเพื่อป้องกันโรค นาย ซีมน เผยว่า “เมื่อก่อน ดินที่นี่แข็ง แต่ตอนนี้ดินค่อยๆปรับสภาพให้มีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น ในดินมีจุลินทรีย์เป็นจำนวนมาก ต้นกาแฟก็แข็งแรงขึ้น ผลผลิตมีความมั่นคง และฤดูเก็บเกี่ยวก็ยั่งยืนมากขึ้นไม่เหมือนปีที่แล้วที่ฤดูเก็บเกี่ยวไม่ได้ผลดี”

ส่วนนาย ซวน ในหมู่บ้าน Gloi Wet อำเภอ Dak Doa ได้ปลูกกาแฟในพื้นที่ 1.5เฮกตาร์ที่มีอายุ 20 ปีตามมาตรฐาน UTZ ตั้งแต่ปี 2018 มาจนถึงปัจจุบันได้เผยว่า ในฤดูเก็บเกี่ยวครั้งแรก ผลผลิตของสวนกาแฟของเขาลดลงเป็นอย่างมากโดยเก็บเมล็ดกาแฟได้เพียง 1.7 ตันต่อเฮกตาร์ แต่ตั้งแต่ฤดูที่ 2 เป็นต้นมา ผลผลิตค่อยๆเพิ่มขึ้น คาดว่า ปีนี้จะเก็บเมล็ดกาแฟได้ประมาณ 5 ตันต่อเฮกตาร์ ตามความเห็นของนาย ซวน การผลิตกาแฟตามมาตรฐาน UTZ ช่วยสร้างผลิตภัณฑ์กาแฟสะอาด ช่วยปกป้องสุขภาพของผู้ปลูกและสิ่งแวดล้อมเนื่องจากลดการใช้สารเคมีในการปลูก นอกจากนั้น วิธีการปลูกนี้ยังช่วยรักษาเสถียรภาพของผลผลิตและลดค่าใช้จ่าย ดังนั้น กำไรจากสวนกาแฟจึงจะสูงขึ้น “เมื่อสวนกาแฟได้รับการฟื้นฟู ผมจะเลือกผลสุกเพื่อขาย อีกครึ่งหนึ่งขายในราคาปกติ เนื่องจากผมใส่ปุ๋ยและฉีดพ่นด้วยเทคนิคที่เหมาะสม ผลผลิตจะสูงขึ้นอย่างแน่นอน ขณะนี้ ผมกำลังเผยแพร่ แนะนำให้ชาวบ้านเข้าร่วมการผลิตกาแฟตามมาตรฐาน UTZ เพื่อการปลูกที่ยั่งยืน ปลอดภัย ประหยัดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ถ้าหากเกษตรกรปฏิบัติตามมาตรฐาน UTZ ผมคิดว่า ราคากาแฟในอำเภอจะสูงขึ้น”

ชนเผ่า Bahnar ในจังหวัดยาลาย ผลิตกาแฟตามมาตรฐานเพื่อการส่งออก - ảnh 2สหกรณ์การเกษตรและบริการลามแองเชื่อมโยงกับนับสิบครอบครัวในการผลิตกาแฟได้มาตรฐาน UTZ

นาย เลหิวแอง ผู้อำนวยการสหกรณ์การเกษตรและบริการลามแองเผยว่า สหกรณ์ฯมีสมาชิก 19 คนและมี 31 ครอบครัวที่อยู่ในเครือสหกรณ์ รวมพื้นที่ปลูกกาแฟประมาณ 70 เฮกตาร์โดยผลิตตามมาตรฐาน UTZ สมาชิกของสหกรณ์ฯร้อยละ 70 เป็นชาว Bahnar ในตำบล Glar, Ia Dok และตำบล Trang ในอำเภอ Dak Doa คาดว่า ในฤดูเก็บเกี่ยวนี้ ผลผลิตกาแฟตามมาตรฐาน UTZ ของสหกรณ์จะบรรลุประมาณ 200 ตัน ด้วยเหตุนี้ สหกรณ์ฯจึงเชื่อมโยงและขายผลิตภัณฑ์ให้แก่สถานประกอบการส่งออกกาแฟด้วยราคาที่มั่นคง นาย เลหิวแอง เผยต่อไปว่า “เกษตรกรให้การสนับสนุนและเข้าร่วมอย่างเข้มแข็ง เป้าหมายของพวกเราคือผลิตเมล็ดกาแฟที่สะอาดและมีคุณภาพเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต นอกจากนี้ สหกรณ์ฯได้ผลิตกาแฟภายใต้เครื่องหมายการค้า Slar Landcoffeโดยสมาชิกของสหกรณ์ฯได้เลือกเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดีที่สุดเพื่อผลิต ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี”

นาย บุ่ยกวางถ่าว รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบล Glar อำเภอ Dak Doa ได้เผยว่า จากการผลิตตามมาตรฐาน ทำให้ผลิตภัณฑ์กาแฟของสหกรณ์ฯมีแหล่งที่มาและสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์อย่างชัดเจน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนในท้องถิ่นกำลังเปลี่ยนวิธีการปลูกกาแฟแบบเดิมที่ใช้ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมีมาทำเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืนเพื่อค้ำประกันการส่งออก“การปฏิบัติตามมาตรฐานในเบื้องต้นได้ช่วยให้คนในท้องถิ่นรู้วิธีการผลิตและการใช้สารกำจัดศัตรูพืชในเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช้สารกำจัดวัชพืชที่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ผลิตเมล็ดกาแฟที่สะอาดและได้มาตรฐาน”

การผลิตกาแฟตามใบรับรองและมาตรฐานระดับโลกกำลังเป็นแนวโน้มของการผลิตที่ยั่งยืนเนื่องจากมุ่งสู่ตลาดขนาดใหญ่ ค้ำประกันมูลค่าผลิตภัณฑ์และยกระดับชื่อเสียงของกาแฟเวียดนาม อีกทั้งช่วยให้ชนเผ่า Bahnar ปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกกาแฟ เพิ่มรายได้และพัฒนาชีวิตและสังคม./.

คำติชม