วัฒนธรรมและความเลื่อมไสของชนเผ่าไต

Lan Anh/VOV5
Chia sẻ

(VOVworld)-ชุมชนชนเผ่าไตเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีประชากรมากที่สุดในจำนวนชนกลุ่มน้อยของเวียดนามโดยมีประมาณเกือบ2ล้านคน ภาษาที่ใช้อยู่ในกลุ่มไต-ไท ตั้งหลักแหล่งอาศัยส่วนใหญ่ในจ.เขตเขาทางเหนือของเวียดนามเช่น กาวบั่ง หลางเซิน บั๊กก๋าน ห่ายาง ท้ายเงวียน ลาวกาย ดังนั้นวิถีชีวิตวัฒนธรรมของชนเผ่าไตนั้นก็อาศัยตามธรรมชาติเป็นหลัก



(VOVworld)-ชุมชนชนเผ่าไตเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีประชากรมากที่สุดในจำนวนชนกลุ่มน้อยของเวียดนามโดยมีประมาณเกือบ2ล้านคน ภาษาที่ใช้อยู่ในกลุ่มไต-ไท ตั้งหลักแหล่งอาศัยส่วนใหญ่ในจ.เขตเขาทางเหนือของเวียดนามเช่น กาวบั่ง หลางเซิน บั๊กก๋าน ห่ายาง ท้ายเงวียน ลาวกาย ดังนั้นวิถีชีวิตวัฒนธรรมของชนเผ่าไตนั้นก็อาศัยตามธรรมชาติเป็นหลัก

วัฒนธรรมและความเลื่อมไสของชนเผ่าไต - ảnh 1
ชนเผ่าไตดำ(photo:internet)

ชุมชนเผ่าไตได้อยู่รวมกันเป็นหมู่บ้านใกล้หุบเขาหรือตามไหล่เขาที่ไม่สูงโดยหมู่บ้านเล็กสุดก็มีตั้งแต่15-20ครอบครัวและมากที่สุดก็เป็นร้อยครอบครัว บ้านเรือนของชนเผ่าไตนั้นก็มีลักษณ์เป็นบ้านไม้เหมือนชนเผ่าที่อาศัยในเขตเขา บ้านแต่ละหลังอาจมี2-4หลังคาที่มุงจากหรือกระเบื้อง ผนังบ้านคือไผ่สานหรือแผ่นไม้

ด้านชุดแต่งกายก็ใช้ฝ้ายเป็นวัตถุดิบหลักโดยจะทอผ้า ย้อมสีเอง ซึ่งทั้งชุดจะเป็นสีครามเข้มและไม่มีลวดลาย เมื่อก่อนสตรีก็ใส่กระโปงแต่เดี๋ยวนี้ใส่เสื้อและกางเกงเหมือนผู้ชายแต่เสื้ออาจจะมีการออกแบบให้ดูอ่อนหวานกว่า เมื่อถึงวันงานสำคัญต่างๆก็จะใส่เสื้อสีขาวข้างในให้ดูโดดเด่นเป็นพิเศษ นอกจากนั้นก็มีเครื่องประดับต่างๆเช่นสร้อยคอ กำไลข้อมือและกำไลข้อเท้าด้วย นางหว่างทิซวาน ชนเผ่าไตที่จังหวัดห่ายางเผยว่า“ชนเผ่าไตแบ่งเป็นหลายกลุ่มคือไตดำ ไตขาว ไตไท ซึ่งสังเกตุจากชุดแต่งกาย เช่นคนไตขาวจะโพกผ้าสีครามบนศีรษะ เสื้อก็สีครามเข้ม มีผ้าคาดเอวสีเขียวและใส่สร้อยคอ คนไตดำมักจะใส่เสื้อดำแขนสั้นกระดุมทำจากเงิน ใส่กระโปรงยาว แต่สำหรับชนเผ่าไตที่อาศัยในจังหวัดกาวบั่งมักจะใส่เสื้อและกางเกงสีดำ”

วัฒนธรรมและความเลื่อมไสของชนเผ่าไต - ảnh 2
ด้านความเชื่อของชาวไตนั้น ก็คล้ายกับชนเผ่าอื่นๆที่มีความเชื่อในเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่อาจส่งผลถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน รวมทั้งยังมีประเพณีการบูชาบรรพบุรุษ โดยในทุกบ้านส่วนหิ้งบูชาบรรพบุรุษจะถูกตั้งไว้ในที่สำคัญที่สุดของบ้าน ด้านหน้ามีเตียงไม้วางไว้ซึ่งห้ามแขกมานั่งหรือนอนบนเตียง นอกจากนั้นคนชนเผ่าไตยังมีข้อห้ามที่ไม่ควรปฏิบัติหลายอย่างเช่น ไม่เหยียบเตาไฟ ไม่ใช้เท้าเขี่ยฟื้นเข้าเตาไฟ คนที่กลับจากงานศพถ้าหากยังไม่อาบน้ำให้สะอาดก็ห้ามเข้าใกล้มองสัตว์เลี้ยงในบ้านหรือคนที่เพิ่งคลอดลูกก็ห้ามเข้าใกล้หิ้งบูชา เป็นต้น

นอกจากการบูชาบรรพบุรุษแล้ว การบูชาสุนัขหินก็ยังคงได้รับการสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ยกตัวอย่างที่หน้าบ้านของชนเผ่าไตที่จังหวัดหลางเซินต่างมีการตั้งสุนัขหินในท่าที่แตกต่างกันโดยพวกเขาเชื่อว่าสุนัขหินจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายต่างๆให้ออกไปและเป็นยามเฝ้าบ้าน นาย วีวันเกอ ชนเผ่าไตที่อ.หลกบิ่งจ.หลางเซินเผยว่า“ตามประเพณีและความเลื่อมใสที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ  บ้านไหนที่ตั้งในทำเลไม่ดีเช่นบนพื้นดินที่แข็งเกินไป มีลำธารไหลผ่านหรืออยู่ตรงข้ามกับภูดอยก็จะตั้งสุนัขหินที่หน้าบ้านเพื่อเป็นเทพฯปกป้องบ้านเรือนและครอบครัวให้มีชีวิตที่สันติสุข อยู่ดีกินดีและทำมาค้าขึ้น”

ด้านชีวิตวัฒนธรรมของชนเผ่าไตนั้นก็มีความหลากหลายด้วยกวี เพลงพื้นเมือง ตำนาน การระบำรำฟ้อน เป็นต้น ซึ่งที่โดดเด่นคือการร้องเพลงเหลือนเช่น เหลือนเซือง เหลือนแทน เหลือนหน่างฮาย เป็นต้น โดยมีลักษณะการร้องเหมือนเพลงทำนองวี้ในเขตที่ราบคือจะมีสองฝ่ายชายหญิงร้องโต้ตอบกัน นอกจากนี้ยังมีการร้องเพลงแทนที่ถือเป็นหนึ่งในศิลปะพื้นเมืองที่ไม่อาจขาดได้ในชีวิตสังคมของชนเผ่าไต โดยแบ่งเป็นเพลงแทนทำนอง วันกา ที่ร้องในงานศพ เพลงแทนโหยที่ร้องในการเทศกาลต่างๆหรือเพลงแทนก๋อเหลาที่ร้องในงานแต่งงาน ./.

ในบทมีเสียงประกอบ เพลงแทน

คำติชม